Page 94 - จัดทำปก รายงานผลการปฏิบัติราขการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของกองบริหารการสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 รอบ 12 เดือน (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2565)

การตรวจสุขอนามัยบนเรือ และพัฒนาท่าเรือต้นแบบด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งการดำเนินงาน

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 รอบ 12 เดือน กลุ่มงานพัฒนาระบบบริการสุขภาพแรงงานและความร่วมมือ
ระหว่างประเทศ ได้มีการดำเนินการ ดังนี้

1. จัดประชุมหารือการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. 2558

(การประเมินผลสัมฤทธิ์พระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. 2558) ในวันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565
เวลา 13.30 – 16.00 น. ณ ห้องประชุม 2 อาคาร 7 ชั้น 6 กองบริหารการสาธารณสุข ตึกสำนักงาน

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผ่านช่องทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Zoom) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงาน
ที่รับผิดชอบกฎหมายในแต่ละมาตราดำเนินการ ดังนี้ 1) ตรวจสอบบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติแรงงาน

ทางทะเล พ.ศ. 2558 ที่อยู่ในความรับผิดชอบ และ 2) จัดทำและรวบรวมข้อมูลการบังคับกฎหมายตั้งแต่

มีการบังคับใช้กฎหมาย โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข
ได้แก่ ผู้แทนกองกฎหมาย กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

และศูนย์กฎหมาย กรมอนามัย จำนวนผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 15 คน จากการประชุมมติที่ประชุมเห็นชอบ
รูปแบบการเก็บข้อมูลในการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายลำดับรอง ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข

ตามที่ผู้แทนกองบริหารการสาธารณสุขเสนอ

2. ประสานงานเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) ให้กับคนประจำเรือ ตามหนังสือกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่ รง 0502/1766 ลงวันที่ 8

มีนาคม 2565 เรื่อง การป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19)

ให้กับคนประจำเรือ โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขให้นำเรื่องต่างๆ
เข้าหารือกับศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ศบค.)

พิจารณาเรื่องมาตรการป้องกันโรคสำหรับแรงงานทางทะเล ใน 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. การขอลด
ระยะเวลากักตัว โดยให้พิจารณานับระยะเวลาตั้งแต่เรือออกจากท่าเรือสุดท้ายจนถึงประเทศไทย เพื่อช่วยให้

คนประจำเรือซึ่งปฏิบัติงานในเรือ เป็นระยะเวลานานไม่เสียเวลาถูกกักกันเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย

2. การพิจารณาให้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) อยู่ในรายการยาที่จำเป็นต้องจัดให้มีในห้องพยาบาลบนเรือ
ซึ่งจะช่วยปกป้องชีวิตของคนประจำเรือ กรณีมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระหว่างการเดิน

ทะเล และ 3. รูปแบบ Test and Go ในการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับคนประจำเรือ
เหมือนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศผลการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นที่ 1 และ 2

ให้เป็นไปตามประกาศราชกิจจานุเบกษากำหนด และประเด็นที่ 3 อยู่ระหว่างการดำเนินงานของกรมสนับสนุน

บริการสุขภาพ ซึ่งเป็นรับผิดชอบกฎหมายลำดับรอง ออกตามความในมาตรา 78 ภายใต้พระราชบัญญัติ
แรงงานทางทะเล พ.ศ. 2558 เป็นผู้ดำเนินการพิจารณามาตรการเกี่ยวกับการพิจารณาให้ยาฟาวิพิราเวียร์อยู่

ในรายการยาที่จำเป็นต้องจัดให้มีในห้องพยาบาลบนเรือ

3. เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการ/คณะทำงาน และประชุมที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติแรงงานทาง
ทะเล พ.ศ. 2558

82