Page 193 - แนวทางการขอใช้ที่ศาสนสมบัติของหน่วยงาน
P. 193
ภาคผนวก 17
มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ ๑๓/๒๕๒๐
เรื่อง การปฏิบัติกับหน่วยราชการขอใช้หรือขอเช่าที่ดินวัดร้าง
ด้วยคณะอนุกรรมการ พศป. ประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๒๐ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๒๐
ได้พิจารณาข้อเสนอของพระวิสุทธาธิบดี อนุกรรมการ ซึ่งเสนอว่า ปัจจุบัน มีหน่วยราชการได้อาศัย
หรือขอใช้ หรือขอเช่าที่ดินวัดร้างหลายแห่ง ทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเช่าส าหรับส่วนภูมิภาคจังหวัด
หรือกรมการศาสนาพิจารณาอนุญาตไปตามอ านาจหน้าที่ ซึ่งก็เหมาะสมกับสมัยนั้นแต่ปัจจุบัน
เหตุการณ์สิ่งแวดล้อมทางสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ควรจะได้วางหลักเกณฑ์การเช่า การใช้ที่ดิน
วัดร้างส าหรับหน่วยราชการไว้ให้เป็นที่แน่นอน หน่วยราชการนั้น ๆ จะได้ไม่ถือโอกาสใช้หรือเช่าที่ดิน
วัดร้างโดยอ าเภอใจ เมื่อทางคณะสงฆ์จะใช้ที่ดินแปลงนั้นเพื่อประโยชน์ทางอื่นก็ติดขัดด้วยประการ
ต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวป้องกันข้อยุ่งยากอื่น ๆ ในการปฏิบัติงาน ควรก าหนดการใช้หรือการเช่าที่ดิน
วัดร้างของหน่วยราชการต่าง ๆ ไว้ดังนี้
๑. หน่วยราชการใดที่เข้าไปอาศัย หรือใช้ที่ดินวัดร้างอยู่แล้ว โดยไม่ได้ท าสัญญาให้ไว้เป็น
หลักฐานให้จัดท าสัญญาเช่าทุกราย เว้นแต่มหาเถรสมาคมจะมีมติเป็นพิเศษให้อยู่อาศัย หรือ
ใช้ประโยชน์โดยไม่ต้องเช่า
๒. หน่วยราชการจะขอเช่าหรือใช้ที่ดินวัดร้างทุกราย แม้สัญญาจะมีก าหนดกี่ปีก็ตาม
ให้น าเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน
๓. อัตราค่าเช่าให้เป็นไปตามอัตราที่มหาเถรสมาคมก าหนดไว้
๔. หน่วยราชการใดได้รับอนุมัติให้ใช้หรือให้เช่าที่ดินวัดร้างไปแล้ว เมื่อจะปลูกสร้าง
สิ่งใดไปต้องขออนุญาตจากกรมการศาสนาก่อน
ที่ประชุมคณะกรรมการ พศป. มีมติเห็นชอบ และให้น าเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณา
ถ้าเห็นชอบแล้วให้กรมการศาสนามีหนังสือเวียนแจ้งให้จังหวัดต่าง ๆ ทราบ
จึงขอเสนอที่ประชุมเพื่อโปรดพิจารณา
ที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการ พศป. เสนอ และให้ด าเนินการได้ทันที
โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม
คู่มือการดูแลและจัดการศาสนสมบัติ ๑๖๗