Page 154 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 154
คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)
ใบความรู้ที่ ๔.๓
ธรรมชาติบำบัดแห่งชีวิต
เคยสังเกตหรือเคยสงสัยบ้างไหมว่า ยิ่งวิทยาการทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีล้ำหน้าขึ้น
มากเท่าไหร่ ความรุนแรงของโรคภัยไข้เจ็บยิ่งล้ำหน้ามากขึ้นเท่านั้น ทำให้ต้องคิดค้นยาและวิธีรักษาเพื่อไล่ตาม
โรคต่างๆ ให้ทัน แต่ไม่วายโรคภัยชนิดใหม่ๆ ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น…เพิ่มขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะหมดไป
ผลจากวิทยาการทางการแพทย์แผนปัจจุบันที่มิอาจเยียวยาร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยไปพร้อมกันได้
หรือในบางกรณีก็มิอาจเยียวยาร่างกายให้หายขาดจากโรคที่เป็นอยู่ได้ ทำให้ผู้คนหันหน้าเข้าหาการแพทย์
ทางเลือก ซึ่ง “ธรรมชาติบำบัด” เป็นอีกหนทางหนึ่งในการรักษาและบำบัดเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจของ
ผู้ป่วยไปพร้อมกัน
หายนะจากชีวิตสมัยใหม่และยาแผนปัจจุบัน
ก่อนจะไปทำความรู้จักกับ “ธรรมชาติบำบัด” สิ่งที่ควรตระหนักรู้ก่อนคือ หายนะหรืออันตรายจาก
การใช้ชีวิตในแบบสมัยใหม่และยาแผนปัจจุบัน
ดร.เจค็อบ วาทักกันเชรี นักธรรมชาติบำบัด แห่งรัฐเคราล่าทางภาคใต้ของอินเดีย อธิบายว่า หัวใจของเรา
เต้นวันละมากกว่า ๑๓๐,๐๐๐ ครั้ง และต้องสูบฉีดโลหิตปริมาณครึ่งถ้วยในทุกๆ การเต้นของหัวใจ เพื่อไปเลี้ยง
ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งในทุกหนึ่งนาทีหัวใจเต้น ๗๒ ครั้ง และแต่ละชั่วโมงจะเต้น ๔,๓๒๐ กว่าครั้ง โดยที่
ไม่ได้พักเลย ขณะที่กระเพาะ ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่จะมีความสุขมากเมื่อได้พักผ่อน
ทั้งนี้ หลายๆ คนอาจบอกว่าอวัยวะเหล่านี้จะได้พักผ่อนในตอนที่เรานอนหลับ แต่ในความเป็นจริง
ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคนเราเข้านอนหลังการกินอาหารมื้อใหญ่ ดังนั้นมันจึงถูกบังคับให้ทำงานต่อไปในตอน
ที่เราหลับ ซ้ำร้ายเมื่อตื่นเช้าก็ดื่มของแย่ๆ เช่น กาแฟเข้าไปอีก และในเวลา ๘ โมงเช้า ก็มีงานใหญ่รอคอยอยู่ นั่นคือ
ข้าวกองเท่าภูเขา อาหารจากตู้เก็บศพ (ตู้เย็น) ซึ่งแสดงว่าอาหารเหล่านี้ได้ตายไปแล้ว ฉะนั้นหากต้องการมี
สุขภาพร่างกาย และจิตใจที่ดีจึงจำเป็นต้องกินอาหารที่มีพลังชีวิตอยู่นั่นคือ อาหารสด
“ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้คือ ความกดดัน ซึ่งเป็นความดันอาหารสูง เพราะเรากินอาหาร
เข้าไปเป็นจำนวนมากตั้งแต่เช้าจดเย็นและค่ำ”
ดร.เจค็อบ อธิบายต่อว่า การหายใจที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้เป็นการหายใจที่ไม่ถูกต้อง การหายใจของ
คนสมัยนี้คือ หายใจแบบเร็วๆ และสั้นๆ เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดไปวันหนึ่งๆ เท่านั้น และทุกวันนี้ไม่มีใครให้ความ
สำคัญกับอากาศที่ใช้หายใจ โดยปัจจุบันคนเราหายใจเพียง ๒๐% ของศักยภาพปอด แต่ถ้าหายใจให้เต็ม
๑๐๐% ของศักยภาพปอดแล้ว ก็จะได้สุขภาพที่ดีเต็ม ๑๐๐% เช่นกัน
“ทุกวันนี้เราต้องคอยวิ่งตามวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ หรือบริษัทข้ามชาติ เพราะกลุ่มนักวิทยาศาสตร์บาง
กลุ่มทำงานให้บริษัทข้ามชาติ และตีพิมพ์ผลงานวิจัยออกมา เช่น ผลงานวิจัยที่ว่าเต้าหู้ หรือชาเขียวมีประโยชน์
ต่อสุขภาพ ผู้คนก็จะแห่ไปกินเต้าหู้ ไปดื่มชาเขียว”
“การกินยาก็เช่นเดียวกัน อาทิ ยาพาราเซตามอลมีผลทำลายตับและไต จากการตรวจสอบประวัติคนไข้
ที่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังจำนวนมาก ซึ่งมารักษาที่ศูนย์ธรรมชาติบำบัดพบว่า คนไข้กินยาพาราเซตามอล ดังนั้น
จึงเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียเลิกใช้ยาชนิดนี้ ซึ่งตอนนี้อินเดียออกกฎหมายว่าให้ติดคำเตือนข้างกล่องยา
๗๘