Page 261 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 261

คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)



                     มีทรัพย์สมบัติ ไม่มีลูกไม่มีหลาน ยากจนแสนเข็ญ แต่เขาก็ยังกลัวความตาย เพราะอะไร เพราะเขายังรักตัวอยู่
                     และที่รักตัวเพราะเขาคิดว่ายังมีตัวกูอยู่

                     ตายก่อนตาย
                            ตราบใดที่ยังคิดว่ามีตัวกู มันก็ทำให้หวงแหนตัวกู รักตัวกู แล้วก็เลยกลัวตาย เพราะเราเชื่อว่าความตาย
                     จะทำให้พรากจากตัวกู หรือทำให้ตัวกูดับสูญ ซึ่งสัญชาตญาณส่วนลึกยอมรับไม่ได้ คนเรากลัวอะไรยิ่งกว่ากลัว

                     สูญเสียตัวตนเป็นไม่มี แต่ถ้าหากเราเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จนถึงขั้นเห็นแจ้งว่า ตัวกูของกูไม่มีจริง มันเป็นเพียง
                     สิ่งที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมา กายก็ไม่ใช่เรา จิตก็ไม่ใช่เรา เมื่อมีปัญญาถึงขั้นนี้ก็จะปล่อยวางได้ ไม่มีตัวกูให้รักหรือหวงแหน
                     อีกต่อไป ถึงตอนนั้น ถ้าจะตายก็ไม่มีความกลัวอีกต่อไป มันมีแต่ความตาย แต่ไม่มีผู้ตาย พูดให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือ
                     แม้กระทั่งความตายก็ไม่มี มีแต่การแตกดับของขันธ์หรือธาตุเท่านั้น
                            การละวางความยึดมั่นถือมั่นในตัวกู ท่านอาจารย์พุทธทาสเรียกว่า “ตายก่อนตาย” คือทำให้ตัวกูดับ

                     ไปก่อนที่จะสิ้นลม ที่จริงตัวกูมันไม่มีอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราไม่เห็นความจริงข้อนี้ จิตก็เลยปรุงแต่งตัวกู
                     แล้วก็ไปยึดตัวกู รวมทั้งไปยึดอะไรต่ออะไรมาเป็นของกู ทำให้ต้องต่อสู้แย่งชิงกับผู้อื่นเพื่อรักษาของกู
                     หรือมีของกูให้มากๆ ทำให้ทุกข์มาก ได้มาแล้วก็ยังต้องหวงแหนรักษาจนเหนื่อย ครั้นรักษาไม่ได้ก็ทุกข์อีกที่ของกู
                     ถูกแย่งไป แต่ถึงจะรวยแค่ไหน ยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ต้องเจ็บ ต้องป่วย ต้องตาย ถ้ายังไม่รู้จักตายก่อนตาย
                     ก็ต้องทุกข์เพราะความเจ็บ ความป่วยและความตาย
                            แต่ถ้าหากเรามีสติระลึกรู้กายและใจอยู่เป็นประจำ จนเห็นธรรมชาติของกายและใจตามที่เป็นจริง

                     ว่าไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา ปล่อยวางความยึดมั่นในตัวกูของกู ชนิดที่เรียกว่าตายก่อนตายได้ เราก็จะเป็นอิสระเหนือ
                     ความตายได้ ไม่ได้แปลว่าไม่ตาย แต่หมายความว่า มีความตาย แต่ไม่มีผู้ตาย เพราะไม่มีตัวกูที่จะทำให้สำคัญ
                     มั่นหมายว่ากูตาย ไม่มีตัวกูที่ต้องรักต้องหวงแหน หรือต้องหวาดกลัวต่อความตายต่อไป
                            อาตมาก็ใช้เวลามาพอสมควรแล้ว ต้องขอยุติการบรรยายแต่เพียงเท่านี้ ขออนุโมทนาทุกท่านที่ได้

                     ร่วมกันมาทำสิ่งที่เป็นมงคล การฟังธรรมนับเป็นการบำเพ็ญบุญที่มีอานิสงส์มาก จัดเป็นอุดมมงคลอย่างหนึ่ง
                     ขอให้บุญกุศลและมงคลดังกล่าวอำนวยผลให้ทุกท่าน เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ เพื่อมีกำลังในการทำความดี
                     มั่นคงในศีลสิกขา จิตสิกขา และปัญญาสิกขา จนกระทั่งรู้แจ้งเห็นจริงในธรรมะ กระทั่งสามารถเป็นอิสระเหนือ
                     ความตาย เข้าถึงความสงบอันสูงสุด อันได้แก่พระนิพพาน อันเป็นจุดหมายของชาวพุทธทุกคนด้วยกัน เทอญ.

                     เอกสารอ้างอิง และแหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม :

                     ๑.  ออนไลน์เข้าถึงได้จาก : http://www.visalo.org/article/D_MoranaSati.htm มรณสติพระไพศาล วิสาโล
                                บทความนี้ตีพิมพ์ลงในหนังสือมรณสติ จัดพิมพ์โดย ชมรมกัลยาณธรรม.



                                    การช่วยเหลือผู้ป่วยระยะสุดท้ายด้วยวิธีแบบพุทธ

                                                   โดยพระไพศาล วิสาโล


                            ความเจ็บป่วยเมื่อเกิดขึ้นแล้ว มิได้เกิดผลกระทบต่อร่างกายเท่านั้น หากยังมีอิทธิพลต่อจิตใจด้วย
                     คนที่เจ็บป่วยส่วนใหญ่แล้วจึงไม่ได้มีความเจ็บป่วยทางกายเท่านั้น หากยังมีความเจ็บป่วยทางจิตใจอีกด้วย ยิ่งผู้ป่วย
                     ระยะสุดท้ายด้วยแล้ว ความเจ็บป่วยทางจิตใจเป็นสาเหตุแห่งความทุกข์ทรมานไม่น้อยไปกว่าความเจ็บป่วยทางกาย

                     หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะสิ่งที่เผชิญเบื้องหน้าเขาคือความตายและความพลัดพรากสูญเสียอย่างสิ้นเชิง
                     ซึ่งกระตุ้นเร้าความกลัว ความวิตกกังวล และความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวให้ผุดขึ้นมาอย่างเข้มข้นรุนแรง
                     อย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน


                                                             ๑๘๕
   256   257   258   259   260   261   262   263   264   265   266