Page 410 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 410
บทสรุปผู้บริหาร
สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข จัดโครงการอบรม “พระบริบาลภิกษุไข้” ประจำวัด
1 วัด ๑ รูปทั่วไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราชสกล
มหาสังฆปริณายก ฉลองพระชนมายุ 8 รอบ โดยการบูรณาการการเรียนการสอน การพัฒนานักศึกษา การ
วิจัย และการทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม กับการบริการวิชาการ มีวัตถุประสงค์เพื่อถวายความรู้และ
ส่งเสริมทักษะพระภิกษุในการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และให้พระภิกษุสามารถให้การบริบาล
พระภิกษุไข้ได้ โครงการประกอบด้วย ๒ กิจกรรมหลัก คือ ๑) สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
เสด็จประทานพระโอวาทและพระคติธรรมแก่โครงการ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ณ วัดพระศรี
มหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพมหานคร และ ๒) วิทยาลัยในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนกทั้ง ๓๙
แห่ง จัดกิจกรรมอบรมถวายความรู้แด่พระภิกษุ กลุ่มเป้าหมายจำนวน 9,๓๖๐ รูป เป็นระยะเวลา ๕ วัน (๓๐
ชั่วโมง) ระหว่างวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ - ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
ผลการดำเนินงานสรุปได้ ดังนี้
๑. กิจกรรมรับพระโอวาทและนโยบายจากสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดพระศรี
มหาธาตุวรมหาวิหาร วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 มีพระสงฆ์เข้าร่วม 328 รูป และมีฆราวาส (ผู้บริหาร
กระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสถาบันพระบรมราชชนก) เข้าร่วม 478 คน
๒. กิจกรรมถวายความรู้ ประกอบด้วยการให้ความรู้ภาคทฤษฎี และการฝึกทักษะปฏิบัติ ในรูปแบบ
การอบรมในสถานที่และการอบรมแบบออนไลน์ โดยทุกวิทยาลัยจัดการอบรมได้ครบถ้วนตามเนื้อหาที่กำหนด
และวิทยาลัยพยาบาลหลายแห่งได้เพิ่มเติมเนื้อหาบางส่วนตามการเสนอแนะของพระภิกษุที่เข้าร่วมโครงการ
๓. มีพระภิกษุเข้ารับการถวายความรู้จากแผนการดำเนินไว้ที่กำหนดครบทั้ง ๗๗ จังหวัด จำนวน
9,๗๘๘ รูป ซึ่งสูงกว่ากลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ คิดเป็นร้อยละ ๑๐๔.๕๗
๔. ร้อยละ ๙๗.๑๒ ของพระภิกษุที่เข้าร่วมโครงการ มีองค์ความรู้และทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ
และป้องกันโรค เพิ่มขึ้นภายหลังได้รับการอบรม
๕. ร้อยละ 97.๒๗ ของพระภิกษุที่เข้าร่วมโครงการ มีความรู้และทักษะในการบริบาลพระภิกษุไข้ใน
ระดับดีขึ้นไป
๖. พระภิกษุที่เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจต่อโครงการในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๕๒) โดย
พระภิกษุมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์ มีโอกาสฝึกปฏิบัติทักษะการ
ดูแลสุขภาพ จึงสามารถนำไปใช้ในการดูแลสุขภาพของตนเองและช่วยบริบาลพระภิกษุไข้ในวัด รวมถึงช่วย
แนะนำประชาชนในชุมชนได้
๗. การดำเนินโครงการได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งหน่วยงานด้าน
พุทธศาสนา หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป
๘. สถาบันพระบรมราชชนกสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการทั้งสิ้น 4,741,990 บาท
(สี่ล้านเจ็ดแสนสี่หมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบบาทถ้วน)
บทเรียนสำคัญที่พบจากการจัดโครงการครั้งนี้คือ พระภิกษุเป็นผู้มีความพร้อมและใฝ่รู้ที่จะรับการ
ถวายองค์ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ ทั้งนี้สาระความรู้ที่จัดถวายควรเป็นเรื่องสุขภาพใกล้ตัวและต้องจัดควบคู่
กับการฝึกทักษะปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและนำความรู้ไปใช้ได้จริง อย่างไรก็ตาม ความรู้และ
ทักษะอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ควรจัดถวายความรู้ด้านสุขภาพแด่
พระภิกษุเป็นระยะ เช่นเดียวกับการสร้างเสริมสุขภาพประชากรกลุ่มอื่น
1

