Page 84 - รพ.บุษราคัม
P. 84
เรื่องเล่า...โรงพยาบาลบุษราคัม
พันตรีชูชัย กันทอง (ทหาร)
"ทุกอย่างที่ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์
เหน็ดเหนื่อยน้อยลง เรายินดี"
แม้ว่าการทำงานเป็นจิตอาสาของพันตรีชูชัย กันทอง และเหล่าเพื่อนๆ ทหาร
ทุกคนจะเหนื่อยหนักสักแค่ไหน แต่ในสายตาและความคิดของเขามันเทียบไม่ได้เลย
กับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน
“ต้องบอกเลยว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล หรือในฝ่ายอื่น ๆ
ทำงานกันหนักมาก เสร็จจากคนไข้รายหนึ่งก็ต้องไปรักษาคนไข้อีกรายหนึ่งต่อ ไหนจะต้องใช้
ความคิดในการรักษา ไหนจะต้องประชุมวางแผน ในช่วงวิกฤตเจ้าหน้าที่บางคนแทบไม่ได้
กินข้าวไม่ได้พักผ่อน ภารกิจของเรานี่เทียบไม่ได้เลยกับคุณหมอ คุณพยาบาล บุคลากร
ทางการแพทย์ทุกคนที่โรงพยาบาลบุษราคัมเสียสละมากๆ ดังนั้นถ้าเกิดพวกเขาร้องขอ
ความช่วยเหลืออะไร พวกเราทหารที่มาเป็นจิตอาสาทุกคนยินดีที่จะช่วยทุกอย่างไม่มีการปฏิเสธ”
“เขาเหนื่อยขนาดนี้ เราเป็นทหารจะมาสบายไม่ได้”
พันตรีชูชัย สังกัดอยู่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย
รั้วของชาติวัย 36 ปี กล่าวว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้นทางโรงพยาบาลบุษราคัมโดยโรงพยาบาล
พระนั่งเกล้า ได้ติดต่อไปยัง พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขอกำลังพล
ในการสนับสนุนภารกิจของโรงพยาบาลบุษราคัม ซึ่งท่านก็ยินดีและให้ความร่วมมือเต็มที่
โดยมอบหมายให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทยลงมาดูแลและ
อำนวยความสะดวกให้กับทีมแพทย์ทุกคน
“หน้าที่หลักของทหารอย่างแรกเลย ก็คือ การรับ - ส่งอาหาร ซึ่งเราจะทำหน้าที่
ส่งให้ผู้ป่วยทุกมื้อทั้งเช้า กลางวัน เย็น หน้าที่ที่สองก็คือการส่งผู้ป่วยที่หายแล้วกลับบ้าน
โดยเราจะมีทหาร 8 นายกับรถ 4 คันสำหรับบริการผู้ป่วยตรงจุดนี้”
“ในช่วงแรกที่จำนวนคนกลับบ้านยังมีเพียง 30 - 40 คนต่อวัน เราจะไปส่งถึง
หน้าบ้านเลย หรือหากไม่ถึงหน้าบ้านก็จะใกล้บ้านมาก ๆ แต่เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น
จนโรงพยาบาลคนไข้เต็มทุกวัน สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต จำนวนคนกลับบ้านแต่ละวันเพิ่มขึ้น
5 - 6 เท่า ขยับเป็นวันละ 200 กว่า เราก็ไม่สามารถจะไปส่งที่หน้าบ้านได้เหมือนเดิม
แต่จะไปส่งยังจุดใหญ่ ๆ ที่ไม่ไกลจากบ้าน เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น”
โรงพยาบาลบุษราคัม กระทรวงสาธารณสุข 75