Page 165 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 165
E5
post-counselling อีกครั้ง และติดตามผ่านทาง Telepharmacy ด้วย กรณีรายที่มี DRPs หรือแพทย์มีการ
ปรับขนาดยา เภสัชกรจะติดตามผู้ป่วยทุก 1-2 สัปดาห์ ส่วนรายที่ไม่พบปัญหาด้านยา จะติดตามทุก 1 เดือน
เป็นเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน หรือจนถึงวันนัด (ปกติแพทย์นัด 1-3 เดือน)
การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณนา และ Pair-simple t-test จากโปรแกรม STATA version 14
ผลการศึกษา
จากการดำเนินการศึกษา กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครองที่ผู้วิจัยสามารถเก็บข้อมูลได้ 47 ราย ส่วนใหญ่เป็น
เพศหญิง ร้อยละ 65.96 อายุเฉลี่ย 40.28 ± 12.1 ปี ส่วนใหญ่เป็นมารดา ร้อยละ 46.81 มีวุฒิการศึกษา
ปริญญาตรี ร้อยละ 38.30 ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กอยู่ในช่วง 1-2 ปี ร้อยละ 36.17 อย่างไร
ก็ตามมีผู้ที่ถูกคัดออกจากการศึกษา จำนวน 3 ราย ดังนี้ ย้ายโรงพยาบาล 1 ราย แพทย์ให้หยุดยาและส่งรักษาต่อ
รพ.ชัยภูมิ ได้แก่ เกิดแพ้ยา Methylphenidate 1 ราย และเกิดผลข้างเคียง Motor TICs 1 ราย
จากการศึกษา จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 47 ราย พบปัญหาจากการใช้ยา จำนวน 89 ครั้ง เฉลี่ย 1.89
ปัญหาต่อราย เภสัชกรดำเนินการแก้ไขได้ทั้งหมด 72 ครั้ง และแก้ไขได้บางส่วน 17 ครั้ง จำนวนการทำ
Telepharmacy ทั้งหมด 164 ครั้ง (น้อยสุด 3 ครั้ง ต่อราย มากสุด 5 ครั้ง ต่อราย) เฉลี่ย 3.49 ครั้งต่อราย
หลังจากมีระบบบริบาลทางเภสัชกรรมผู้ป่วยสมาธิสั้นแบบใหม่ คะแนน SNAP-IV ของผู้ปกครอง
ในเดือนที่ 3 พบว่า คะแนนด้านพฤติกรรมขาดสมาธิลดลง (M= 9.94, S.D.=0.61) ด้านพฤติกรรมไม่นิ่ง/วู่วาม
ลดลง (M=7.38 , S.D.=0.55) และด้านพฤติกรรมดื้อต่อต้านลดลง (M=9.15, S.D.=0.62) ซึ่งต่ำกว่าคะแนน
ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ 0.001, 0.001 และ 0.003 ตามลำดับ ส่วนคะแนน
ความร่วมมือในการใช้ยา ในเดือนที่ 3 พบว่า อยู่ในระดับ Good adherence ร้อยละ 87.23 เปรียบเทียบกับ
ก่อนการศึกษา เพียงร้อยละ 42.55 สำหรับคะแนนความรู้ความเข้าใจของผู้ปกครอง ในเดือนที่ 3 สูงขึ้น
เฉลี่ย 11.11 ± 0.39 คะแนน จากคะแนนเต็ม 15 คะแนน (t=-7.92) แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่
0.001 เมื่อสอบถามความถี่ในการเข้าใช้งาน SmartKidsBot ของผู้ปกครอง พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 68.09
โดยเข้าใช้งานแชทบอท 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่พบว่ามีผู้ปกครองจำนวน 3 ราย ที่ไม่ได้เข้าใช้งานเลย
อภิปรายผล
จากการสอบถามความถี่ในการเข้าใช้งาน SmartKidsBot มีผู้ปกครองจำนวน 3 ราย ที่ไม่ได้เข้าใช้งาน
เลย เนื่องจากไม่มี Smart phone ที่สามารถเข้าถึงไลน์แชทบอทได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหา เนื่องจากเภสัชกรได้มี
การติดตามการใช้ยาผ่านทางโทรศัพท์ (Telepharmacy) ร่วมด้วยทุกราย
สรุปและข้อเสนอแนะ
หลังจากมีการพัฒนาระบบบริบาลเภสัชกรรมแบบใหม่ คะแนนโดยรวมดีขึ้น อาจมาจากการที่เภสัชกร
ได้มีส่วนเข้าไปแก้ไขปัญหาด้านยาเชิงรุกและติดตามการใช้ยา รวมถึงมีแชทบอทที่ช่วยเสริมการเรียนรู้มากขึ้น
สำหรับข้อเสนอแนะคือ ควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดระบบที่ยั่งยืนต่อไป
Reference: 1. Sirithongthaworn S, Kanjanarat P, Kamduang N, Itsarapong P, Pila S, Pattanakitkosol P, et al. Development of integrated care model for
children with attention-deficit hyperactivity disorder among health care professionals, parents, and teachers in Northern Thailand. Journal of Health
System Research 2017; 60(3): 2-198.