Page 251 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 251
F37
วิธีการศึกษา
เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา หญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมที่มารับบริการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย
ที่โรงพยาบาลชัยภูมิ โดยไม่จำกัดอายุและอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ โดยรวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงาน
ปีงบประมาณ 2566 ประกอบด้วย
1. เก็บข้อมูลพื้นฐานหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมที่มารับบริการประกอบด้วย อายุ, อายุครรภ์, อาชีพ,
สาเหตุที่ต้องการยุติการตั้งครรภ์
2. นัดตรวจติดตาม 1 สัปดาห์หลังให้การยุติการตั้งครรภ์ ตรวจประเมินอัลตร้าซาวนด์เพื่อดูการแท้งครบ
เป็นการเก็บข้อมูลอัตราความสำเร็จการการใช้ยา และเก็บข้อมูลภาวะแทรกซ้อนหลังยุติการตั้งครรภ์
3. ให้การคุมกำเนิดด้วยวิธีประสิทธิภาพสูงคือการฝังยาคุมกำเนิดทุกรายในวันที่เข้ารับการรักษา
4. โทรศัพท์ติดตาม 4 สัปดาห์เพื่อสอบถามข้อมูลเรื่องการเข้าศึกษาหรือทำงานต่อที่เดิมและระยะเวลา
ในการกลับเข้าศึกษาต่อหรือทำงานที่เดิม
ผลการศึกษา
ในปีงบประมาณ 2566 มีหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมเข้ารับบริการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยจำนวน 76 ราย
อายุเฉลี่ย 24 ปี (24.63 ± 8.47) อายุครรภ์เฉลี่ย 7 สัปดาห์ (7.75 ± 3.87) สาเหตุส่วนใหญ่คืออยู่ระหว่างเรียน
หนังสือ (78%) รองลงมามีปัญหาเรื่องการเงิน (12%) ลำดับที่สามคือครอบครัวและสังคม (8%) สาเหตุอื่น 2%
อัตราความสำเร็จของการยุติการตั้งครรภ์ (Complete abortion) ด้วยยา Mifepristone plus
Misoprostol 72 รายคิดเป็นร้อยละ 94.73 ใน 4 รายที่ incomplete abortion ได้รับการทำ manual
vacuum extraction ทุกราย ผู้รับบริการได้รับการคุมกำเนิดด้วยการฝังยาร้อยละ 100 ก่อนกลับบ้าน
ไม่พบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงเช่นการเสียเลือด ติดเชื้อ แพ้ยา พบเพียงอาการข้างเคียงของยา
จำนวน 2 ราย ได้แก่ มีไข้หนาวสั่นในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
ภายหลังยุติการตั้งครรภ์ผู้ป่วยสามารถเข้าเรียนต่อหรือทำงานต่อที่เดิมจำนวน 75 ราย (98.68%)
ระยะเวลาเฉลี่ยในการกลับเข้าเรียนหนังสือหรือทำงานที่เดิมคือ 3 วัน (2.96 ± 1.36)
อุบัติการณ์การทำแท้งเถื่อนจนเกิดภาวะแทรกซ้อนต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลชัยภูมิลดลงอย่างมาก
หลังดำเนินงาน RSA ในปี 2562-2566 ดังนี้ 2,2,1,0,1 รายตามลำดับเมื่อเทียบจากปี 2559-2561 ที่มีจำนวน
ผู้ป่วย 14,15 และ 11 รายตามลำดับ