Page 155 - แนวทางการขอใช้ที่ศาสนสมบัติของหน่วยงาน
P. 155
หน้า ๗
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๔๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ มีนาคม ๒๕๖๑
ถ้าอัยการสูงสุดเห็นพ้องกับหน่วยงานของรัฐ ให้แจ้งพนักงานอัยการเพื่อดําเนินการต่อไป
แต่หากอัยการสูงสุดเห็นแตกต่างจากความเห็นของหน่วยงานของรัฐ ให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณา
ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นพ้องกับความเห็นของอัยการสูงสุด มติของคณะกรรมการผูกพัน
หน่วยงานของรัฐ แต่หากคณะกรรมการเห็นควรให้ดําเนินคดีต่อไป ให้อัยการสูงสุดพิจารณาดําเนินการ
ตามมติของคณะกรรมการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการอัยการประกาศกําหนด
ตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ
คดีใดจะขาดอายุความฟ้องร้อง ให้พนักงานอัยการดําเนินการฟ้องคดีภายในกําหนดอายุความ
โดยไม่ต้องรอผลการวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการ
ข้อ ๒๔ ให้นําความในข้อ ๒๑ ข้อ ๒๒ และข้อ ๒๓ มาใช้บังคับกับการอุทธรณ์ ฎีกา
การยื่นคําให้การ และการยื่นคําร้องอื่นใดโดยอนุโลม
ข้อ ๒๕ ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐมีข้อโต้แย้งกับเอกชนเป็นคดีปกครองหรือกรณีที่เจ้าหน้าที่
ของรัฐตกเป็นคู่กรณีในคดีปกครอง ให้หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นคู่กรณีส่งเรื่องให้
สํานักงานอัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการซึ่งมีหน้าที่และอํานาจดําเนินคดีปกครองโดยตรงดําเนินการ
เว้นแต่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นมีเจ้าหน้าที่หรือนิติกรซึ่งมีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว
และประสงค์จะดําเนินคดีเอง ก็ให้ดําเนินการได้
ให้นําความในข้อ ๒๑ ข้อ ๒๒ ข้อ ๒๓ และข้อ ๒๔ มาใช้บังคับกับการดําเนินคดีปกครอง
โดยอนุโลม
ข้อ ๒๖ ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่กับเอกชนในคดีแพ่งหรือ
คดีปกครองที่ต้องใช้อนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทก่อนนําคดีขึ้นสู่ศาล ให้ส่งเรื่องให้สํานักงาน
อัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการซึ่งมีหน้าที่และอํานาจดําเนินคดีในชั้นอนุญาโตตุลาการโดยตรง
ดําเนินการ
ให้นําความในข้อ ๒๑ ข้อ ๒๒ ข้อ ๒๓ และข้อ ๒๔ มาใช้บังคับกับการดําเนินคดีในชั้น
อนุญาโตตุลาการโดยอนุโลม
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๒๗ การพิจารณาชี้ขาดข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐ และการพิจารณาชี้ขาด
การดําเนินคดีทั้งปวง ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดําเนินคดีแพ่ง
ของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๙
ในวันก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้คณะกรรมการตามระเบียบนี้เป็นผู้มีอํานาจพิจารณาชี้ขาดต่อไป
และให้ถือว่าบรรดากระบวนพิจารณาที่พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการสูงสุด หรือคณะกรรมการ
พิจารณาชี้ขาดการยุติในการดําเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ดําเนินการ