Page 50 - รพ.บุษราคัม
P. 50
เรื่องเล่า...โรงพยาบาลบุษราคัม
ทีมแรกรับ (Loading)
"ยังไงก็แล้วแต่คนไข้ต้องมาก่อน "
แม้สถานการณ์โควิด 19 จะมีความหวาดวิตกและน่ากลัวโดยเฉพาะในพื้นที่
กรุงเทพฯ และปริมณฑลแต่นายแพทย์สุดชาย เลยวานิชย์เจริญ ไม่ได้มีอาการกริ่งเกรง
แม้แต่น้อย
รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลมหาสารคามตัดสินใจรับงาน
ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการที่โรงพยาบาลบุษราคัม ทันทีที่ได้รับการชักชวนจากหมอจ้อม
หากเปรียบเป็นยามสงครามข้าศึกบุกประชิดเมืองหลวง หมอสุดชายซึ่งเป็นทหารอยู่ในที่
ห่างไกล ไม่รีรอที่จะขันอาสาเดินทางไปรบด้วยตัวเอง
ตอนนั้นกราฟที่จังหวัดมหาสารคามเริ่มที่จะพุ่งขึ้นแต่ก็ยังไม่มาก เรียกว่าคนละเรื่อง
กับที่กรุงเทพฯ ถ้าเปรียบให้เห็นภาพ เราคิดว่ากรุงเทพฯ ก็เป็นเหมือนกับไข่แดงเป็น
จุดศูนย์กลาง ถ้าเกิดเอาไม่อยู่ไข่แดงแตกมันก็จะลามไปยังพื้นที่ในจังหวัดอื่น ๆ ที่เป็นไข่ขาว
พอทางโรงพยาบาลบุษราคัมติดต่อมาเราก็ไม่ลังเลเลยที่จะไปช่วยงานที่นั่น ซึ่งคนรอบข้าง
เราทุกคนก็ล้วนแต่สนับสนุนไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือครอบครัว
“ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามท่านก็ยินดีบอกว่าให้ไปช่วยงานที่
โรงพยาบาลบุษราคัมเถอะ สถานการณ์ที่นั่นลำบากกว่าเราเยอะ ขณะที่ภรรยาและลูกอีก
2 คน ก็สนับสนุนไม่ได้ขัดอะไรเราเลย”
เมื่อมาเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม หน้าที่หนึ่งที่นายแพทย์วัย 52 ปี
ได้รับมอบหมายก็คือการบริหารทีมแรกรับหรือที่เรียกกันว่าอีกอย่างว่าทีม Loading
ซึ่งเปรียบได้กับประตูบานแรกก่อนที่จะเข้าไปสู่บ้านหลังใหญ่
“หน้าที่ของทีม Loading ก็คือการนำคนไข้มาทำการคัดแยกและตรวจเช็ค
ทำประวัติก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งกระบวนการตรงนี้มีความสำคัญมากเพราะ
เราคือด่านแรกสุด ถ้าเราตรวจเช็คและประเมินคนไข้ผิดพลาด การรักษาก็จะผิดเพี้ยน
ไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็นส่งผลเสียหายต่อชีวิตของคนไข้
ยกตัวอย่างเช่นถ้าคนไข้มีอาการเป็นสีเหลืองแต่เราประเมินเป็นสีเขียว แทนที่เขา
จะรักษาหายอาการของเขาอาจจะแย่หนักกว่าเดิมก็เป็นได้ แล้วด้วยความที่เราติดกระดุมเม็ดแรก
ผิดก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดความผิดพลาดในกระบวนการต่อ ๆ ไป ฉะนั้นการทำงานของทีมแรก
รับจะต้องมีความละเอียด มีการตรวจค่าออกซิเจนและเอ็กซเรย์ปอดผู้ป่วยทุก ๆ คน
เพื่อคัดแยกอาการว่าเป็นผู้ป่วยในระดับใด”
โรงพยาบาลบุษราคัม กระทรวงสาธารณสุข 41