Page 52 - รพ.บุษราคัม
P. 52
เรื่องเล่า...โรงพยาบาลบุษราคัม
แม้จะเป็นช่วงเวลาแค่ 2 อาทิตย์ แต่คุณหมอวัย 34 ปี คิดว่านี่คือครั้งหนึ่งในชีวิต
ที่ได้ทำงานในโรงพยาบาลระดับประเทศ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
แม้จะรู้ว่าพ่อแม่เป็นห่วงและไม่ได้อยากให้มาแต่ก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งความตั้งใจของเธอได้
“เมื่อรู้ว่ามีจดหมายแจ้งมาเราตอบรับทันทีโดยได้ฝากงานให้กับลูกน้องเป็น
ที่เรียบร้อย ส่วนทางครอบครัวนั้นเราตัดสินใจบอกเขาในวันที่เดินทางเพื่อที่เขาจะได้
ไม่สามารถห้ามเราได้ ถ้าบอกก่อนหน้านั้นเขาไม่ให้ไป”
15 - 29 สิงหาคม 2564 คือวันเวลาที่หมอกระแตมาปฏิบัติภารกิจที่โรงพยาบาล
บุษราคัม ซึ่งนั่นตรงกับช่วงที่สถานการณ์ของโควิด 19 ในบ้านเมืองพุ่งขึ้นถึงขีดสุด
“ช่วงเวลาที่เราทำงานที่นี่เป็นช่วงที่พีคมาก
โดยเฉพาะในช่วงอาทิตย์แรกทำงานตั้งแต่
10 โมงถึงตี 3 แทบทุกวัน จำได้ว่าบางวัน
มีคนไข้เข้ามาถึง 600 คน แล้วทีม Loading
เรามีอยู่ 2 โหลด แบ่งกันโหลดละ 300 คน
แน่นอนว่าการที่เราต้องซักประวัติคนไข้
ทั้ง 300 คนอย่างละเอียด และประเมิน
อาการคนไข้ทั้งหมดให้ถูกต้องไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่สำคัญเราต้องพยายามทำทุกอย่าง
ให้ทันเวลาและให้จบภายในวันเดียว เพราะวันต่อมาก็จะมีคนไข้ชุดใหม่มาอีก ซึ่งถ้าเราหยุด
หรือทำไม่จบคนไข้ก็จะไม่ได้เข้ารับการรักษา ยังไงก็แล้วแต่คนไข้ต้องมาก่อน
“สถานการณ์ในตอนนั้นต้องยอมรับว่าหนักและเครียดมาก ยิ่งถ้าเจอผู้ป่วยบางราย
ที่เป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่ชายขอบเป็นชนเผ่าที่อยู่ห่างไกลและสื่อสารภาษาไทยไม่ได้เลย
นี่จะเหนื่อยมาก บางคนต้องสื่อสารผ่านล่ามกัน 2 - 3 ต่อ เอาแค่การสื่อสารก็ยากแล้ว แต่เรา
ต้องมาประเมินอาการเขาอีก ยอมรับเลยว่าเป็นอะไรที่เหนื่อยสุดๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่มี
ค่ามากและช่วงเวลาที่เราทำงานอยู่ เพื่อน ๆ ในทีมทุกคนทำงานกันเต็มที่ ไม่มีใครอู้หรือ
เกี่ยงงานเลย”
ในช่วงที่อยู่ในภาวะของความตึงเครียดหนักหน่วงจากการทำงาน หมอกระแต
บอกว่าหากมีช่วงเวลาว่าง ๆ ที่ไม่มีคนไข้เธอและเพื่อน ๆ จะเปิดเพลงหมอลำแล้วเต้นกัน
อยู่ข้างในห้องความดันบวกเพื่อเป็นการผ่อนคลาย และเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมกับการงาน
อันหนักหน่วงที่จะมาถึงในแต่ละวัน
นี่คือยาชูกำลังและบำรุงหัวใจชั้นดีของหมอกระแตและทีมแรกรับ
ทีมซึ่งเป็นคนด่านหน้าและด่านแรกในการต่อสู้กับวิกฤตโควิด 19 ของ
โรงพยาบาลบุษราคัม
โรงพยาบาลบุษราคัม กระทรวงสาธารณสุข 43