Page 267 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 267
G8
ผลการดำเนินงาน
การพัฒนาโมเดล”เพื่อนพยาบาลโฮม(Home)ใจ 5 มิติ” โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม เริ่มตั้งแต่การ
ให้ข้อมูล รับรู้แนวทาง ขั้นตอน และกระบวนการ เพื่อให้เข้าถึงข้อมูล โดยร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและความ
ต้องการของผู้ป่วย ญาติผู้ดูแล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในท้องถิ่นและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่ดูแล
ผู้ป่วยที่บ้าน เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้โมเดลฯ ตรวจสอบประสิทธิภาพและพัฒนาทักษะการใช้โมเดล
ฯให้กับผู้ป่วย ญาติผู้ดูแล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในท้องถิ่นและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ให้มีส่วน
ร่วมทดลองใช้ วางแผน และบันทึกข้อมูลในแบบบันทึกก่อนนำไปใช้งานจริงที่บ้าน รวมถึงร่วมกันมีส่วนร่วม
ประเมินผลและการติดตามผล เพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหาการใช้งานโมเดลเพื่อนพยาบาลโฮม(Home)ใจ 5มิติ ซึ่ง
สามารถ แบ่งออกเป็น 5 ด้าน ได้ดังนี้ 1) มิติด้านการรับรู้เกี่ยวกับโรค เช่น สามารถรับรู้ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะ
น้ำตาลในเลือดสูง , ภาวะปอดอักเสบ อาการ ภาวะแทรกซ้อนและค่าปกติผลตรวจทางห้องปฏิบัติการที่
เกี่ยวกับโรคเบาหวานระดับน้ำตาลในเลือดสูง อ้างอิงจาก คู่มือแนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน (สมาคม
โรคเบาหวานแห่งประเทศไทย , 2566),โรคปอดอักเสบ อ้างอิงจาก คู่มือการพยาบาลผู้ป่วยสูงอายุโรคปอด
อักเสบ (อุ่นเรือน กลิ่นขจร , 2563) 2) มิติด้านการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อทำหัตการที่บ้านได้ด้วยตนเอง
เช่น การเจาะน้ำตาลปลายนิ้ว(DTX)ด้วยตนเองหรือปฏิบัติให้โดยผู้ดูแล การวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว(Osat)และ
สัญญาชีพด้วยตนเองหรือปฏิบัติให้โดยผู้ดูแล 3) มิติด้านการรับรู้ค่าผิดปกติผลตรวจทางห้องปฏิบัติการร่วมกับ
อาการผิดปกติจากการทำหัตถการที่บ้านได้ด้วยตนเอง เช่น สามารถรับรู้ค่าระดับน้ำตาลปลายนิ้ว(DTX) สูง-ต่ำ
,ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว(Osat) สูง-ต่ำ ที่ผิดปกติร่วมกับอาการผิดปกติที่ต้องรายงานพยาบาลทราบได้ด้วยตนเอง
4) มิติด้านการบันทึกข้อมูลและการใช้เทคโนโลยีเพื่อรายงานผลได้ด้วยตนเอง เช่น การบันทึกผลตรวจค่า
น้ำตาลปลายนิ้ว(DTX),ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว(Osat) ลงในแบบบันทึกที่ตัวโมเดลฯและใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ท
โฟนที่มีระบบอินเตอร์เน็ตไร้สายถ่ายภาพแบบบันทึกหรือถ่ายหน้าจออ่านผลหรือถ่ายวีดีโออาการของคนไข้เมื่อ
มีอาการผิดปกติส่งรายงานพยาบาลทราบผ่านทางแอฟพลิเคชัน Line OA HW phonsai hospital ด้วยตนเอง
ได้ทันที 5) มิติด้านการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เช่น ตรวจพบระด้บ
น้ำตาลในเลือดสูง-ต่ำหรือร่วมกับมีอาการผิดปกติ , ตรวจพบค่าออกซิเจนปลายนิ้ว(Osat)ต่ำกว่า 95 mg%
หรือร่วมกับมีอาการผิดปกติ ผู้ป่วย หรือญาติผู้ดูแล หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่
สาธารณสุขในท้องถิ่นชุมขนนั้นๆ สามารถรายงานอาการผิดปกติฉุกเฉินแก่พยาบาลผ่านทางแอฟพลิเคชัน Line
OA HW phonsia hospital หรือเบอร์โทรศัพท์สายตรงพยาบาลประจำศูนย์ Home ward หรือเบอร์ติดต่อ
ฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้พยาบาลสามารถรายงานแพทย์ทราบได้ทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง
หลังใช้โมเดลฯ พบว่าผู้ป่วยมีความรู้และทักษะการใช้โมเดลฯ เบื้องต้นเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 86.67 ญาติและ
ผู้ดูแลมีความรู้และทักษะการใช้โมเดลฯเบื้องต้นเพิ่มขึ้นเป็น คิดเป็นร้อยละ 94.73 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน
ท้องถิ่นและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านมีความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วยในที่บ้านเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ
100 ซึ่งทำให้ความครอบคลุม ในการติดตามอาการ ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้น ติดตาม
ภาวะแทรกซ้อนของโรคและภาวะฉุกเฉิน จากการดูแลผู้ป่วยในที่บ้านได้ครบถ้วน คิดเป็นร้อยละ 100