Page 270 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 270
G11
คำแนะนำ บรรยายและสรุป 3) ส่งเสริม/จัดกิจกรรมการสื่อสารในชุมชน กำหนดสถานการณ์สมติให้กลุ่มฝึก
ทักษะการสื่อสารและการบอกต่อ 4) ส่งเสริมการจัดการตนเองเพื่อการปฏิบัติการป้องกันโรคที่ถูกต้องและ
ดำเนินการติดตามทางแอพพลิเคชั่นไลน์ สัปดาห์ที่ 2-3 และติดตามที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
สัปดาห์ที่ 4-5 5) ส่งเสริมในการตัดสินใจเลือกปฏิบัติในการป้องกันโรคที่ถูกต้อง และ 6) ให้ความรู้เกี่ยวกับการ
รู้เท่าทันสื่อและส่งเสริมการใช้ข้อมูลสารสนเทศในการป้องกันวัณโรคปอดในโปรแกรมประกอบด้วยการใช้สื่อ
Power point Smart phone การสาธิต สาธิตย้อนกลับ การระดมความคิดเห็น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ
บุคคลต้นแบบ ทุกคนมีส่วนร่วมทุกกิจกรรม การติดตามทางแอพพลิเคชั่นไลน์ และติดตามที่โรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตำบล ทำให้กลุ่มทดลองได้รับการส่งเสริมพัฒนาทักษะความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันวัณ
โรคปอด สอดคล้องกับการศึกษาของ เอื้อจิต สุขพูล และคณะ (2563) ที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของโปรแกรมการ
พัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพสำหรับประชาชนกลุ่มวัยทำงาน พบว่า การติดตามทาง
โทรศัพท์และเยี่ยมบ้าน ทำให้ความรอบรู้ด้านสุขภาพคงอยู่และเป็นการกระตุ้นเตือน สร้างความตระหนักรู้ ให้
เกิดรับผิดชอบในการดูแลตนเอง ครอบครัว และชุมชนที่เหมาะสม สอดคล้องกับการศึกษาของ มนัสพงษ์
มาลา (2565) ที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของโปรแกรมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในการควบคุมและกำจัดโรคไข้
มาลาเรีย ของ อสม.หมอประจำบ้าน พบว่า ผลของโปรแกรมความรอบรู้ด้านสุขภาพทำให้ กลุ่มตัวอย่างมี
คะแนนระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพในการควบคุมโรคมาลาเรีย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ
การศึกษาของจิราวรรณ ศรีทองพิมพ์ และคณะ (2565) ที่ศึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมส่งเสมความรอบรู้ด้าน
สุขภาพต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและการปฏิบัติป้องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังใน
ชุมชนพบว่า หลังได้รับโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้าน
สุขภาพและการปฏิบัติป้องกันโรคโควิด-19 สูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมฯ และสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติ สอดคล้องกับการศึกษาของ รจนารถ ชูใจ และคณะ (2564) ที่ได้ศึกษาผลของโปรแกรมการ
ส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการ
ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ อสม. พบว่า หลังได้รับโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ
กลุ่มทดลองมีระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพสูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมฯ และสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติ และควรจัดทำโปรแกรมพัฒนาความรอบรู้ด้านภาพ เพื่อพัฒนาและยกระดับความรู้ของ
อสม. (กฤศภณ เทพอินทร์ และเสน่ห์ ขุนแก้ว, 2565)
2.ผลการวิจัยพบว่า หลังเข้าร่วมโปรแกรมฯ กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกัน
วัณโรคปอดสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
จากผลการวิจัยอธิบายได้ว่า กลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมฯ มีการปฏิบัติการป้องกันป้องกันวัณโรคปอด
สูงกว่ากลุ่มควบคุม สูงกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการดูแลตามปกติ อาจเนื่องจากผลของโปรแกรมส่งเสริมความ
รอบรู้ด้านสุขภาพต่อการปฏิบัติการป้องกันวัณโรคปอดใน อาสาสมัครสาธารณสุขของกองสุขศึกษา กระทรวง
สาธารณสุข (2562) โดยนำแนวคิดความรอบรู้ด้านสุขภาพของนัทบีม (Nutbeam, 2008) ที่ประกอบด้วย 6
องค์ประกอบหลักและมีการติดตามทางไลน์ เป็นรายบุคคลใน สัปดาห์ที่ 2-3 และติดตามที่ โรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบล สัปดาห์ที่ 4-5 ทำให้กลุ่มทดลองได้รับการส่งเสริมพัฒนาทักษะความรอบรู้ด้านสุขภาพในการ
ป้องกันวัณโรคปอด เนื่องจากกลยุทธ์การเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับ อสม. ส่งผลให้ อสม. มีความรู้
และทักษะในการจัดการตนเองด้านสุขภาพ รวมถึงสามารถนำความรู้ไปใช้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง
ครอบครัว ชุมชนในการป้องกันวัณโรคได้อย่าง มีประสิทธิภาพและเหมาะสม (กองสุขศึกษา 2562) ดังนั้น
สามารถสรุปได้ว่า เมื่อนำแนวคิดความรอบรู้ด้านสุขภาพและการความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันวัณโรค
ปอด และการติดตามอย่างต่อเนื่อง สามารถทำให้กลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมฯมีความรอบรู้ด้านสุขภาพใน
การป้องกันวัณโรคปอด มากกว่าก่อนเข้าโปรแกรม และสามารถนำไปขยายผล บอกต่อ และส่งเสริมความรอยรู้