Page 272 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 272
G13
ALERT AWARENESS FIGHT NCDs ( กระตุ้นเตือน ตระหนักรู้ สู้ภัย NCDs )
นายนัฐพงษ์ รินอินทร์
พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
โรงพยาบาลน่าน จังหวัด น่าน เขตสุขภาพที่ 1
ประเภทนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์
1.ความสำคัญของปัญหาวิจัย
ปัจจุบันประชาชนขาดความตระหนักในการตรวจสุขภาพ ขาดการตรวจประเมินสุขภาพเบื้องต้น ทำให้
เกิดความเสี่ยงของการเกิดโรค กลุ่ม NCDs ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริม การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง (ที่
มีอัตราการตาย อันดับ 2 ของประเทศ) เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมะเร็งเป็นต้น จึงต้องใช้ความมีส่วนร่วม
ของคนในชุมชน และบุคลากรการแพทย์ ร่วมกับเทคโนโลยีเพื่อ ติดตาม กระตุ้น ส่งเสริมการปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมสุขภาพ ในสถานการณ์ covid-19 ที่จำกัดการร่วมกลุ่ม จึงได้ทำระบบติดตาม คัดกรอง และป้องกัน
การเกิดความเสี่ยงของกลุ่มโรค NCDs ภายใต้กรอบแนวคิด SELF MANAGEMENT ในรูปแบบWeb
Application เพื่อสะดวกในการใช้ติดตาม คัดกรองผู้มารับบริการเบื้องต้น และกระตุ้น การปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้เข้ารับการ ประเมินภาวะสุขภาพ โดย อสม.พยาบาลพี่เลี้ยง และนำข้อมูลมา
วิเคราะห์ วางแผนการรักษา โดยแพทย์ และทีมสหสาขาได้ถูกต้อง
2. วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เพื่อพัฒนา Applicationในการติดตาม และประเมินผล ภาวะสุขภาพของผู้ป่วยกลุ่มโรค NCDs
ในชุมชน
2. เพื่อเปรียบเทียบการติดตามภาวะสุขภาพของผู้ป่วยกลุ่มโรค NCDs ในชุมชน ก่อนและหลัง
ดำเนินการจัดทำ Application
3. วิธีการศึกษา
การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) ชนิดศึกษากลุ่มเดียววัดผลก่อน
และหลัง เพื่อเปรียบเทียบผลของการใช้นวัตกรรม Alert Awareness Fight NCDsในการติดตามพฤติกรรม
สุขภาพของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน คลินิกหมอครอบครัว ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง
โรงพยาบาลน่านดำเนินการวิจัยระหว่างเดือน มกราคม 2564 ถึงเดือนเมษายน 2565
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของคลินิกหมอครอบครัว ศูนย์สุขภาพ
ชุมชนเมือง โรงพยาบาลน่านและไปรับบริการที่ศูนย์สาธารณสุขมูลฐาน (ศสมช.) รวมทั้งหมด จำนวน 225 ราย
ได้แก่
1.ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและ/หรือมีโรคร่วม มีผลการตรวจร่างกายในวันที่มารับบริการคลินิก
หมอครอบครัวตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ.2564 ถึง 30 เมษายน พ.ศ.2565 จำนวน 108 ราย
2.ผู้ป่วยโรคเบาหวานและ/หรือมีโรคร่วม มีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติในวันที่มารับบริการคลินิก
หมอครอบครัว ตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ.2564 ถึง 30 เมษายน พ.ศ.2565 จำนวน 117 ราย
กลุ่มควบคุม คือ ผู้ป่วย เบาหวาน/โรคความดันโลหิตสูงและ/หรือมีโรคร่วมจำนวน 225 ที่ได้รับการ
ติดตามตามระบบปกติ