Page 274 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 274

G15

                         สามารถสรุปได้ว่าการนำเทคโนโลยี ( Application Alert Awareness Fight NCDs )มาใช้ ในการ
                  กระตุ้นเตือน และติดตาม ในกลุ่มผู้มารับบริการ มาใช้บริการที่ศูนย์ ศสมช.มากขึ้น ผู้รับบริการมาตรวจได้ตรง

                  ตามนัด แพทย์ พยายบาล และเจ้าหน้าที่ สามารถติดตามผู้ป่วยความดันโลหิตสูง และผู้ป่วยโรคเบาหวานได้
                  อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้


                         ทางผู้จัดทำได้นำ นวัตกรรม Alert Awareness Fight NCDs ไปใช้เป็นเครื่องมือในการทำวิจัยเรื่อง
                  ผลของการสนทนาสร้างแรงจูงใจร่วมกับการใช้นวัตกรรม Alert Awareness Fight NCDsในการปรับเปลี่ยน
                  พฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานคลินิกหมอครอบครัว ศูนย์สุขภาพชุมชน

                  เมือง โรงพยาบาลน่าน ได้ผลสรุปงานวิจัย ดังนี้
                         ผลการศึกษาแบ่งเป็น 2 ส่วน ตามลำดับ ดังนี้
                            ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปพบว่าทกลุ่มตัวอย่างโรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อย
                  ละ 68.2 อยู่ในช่วงอายุ ≥65 ปี มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 40.9 อายุต่ำสุด 37 ปี อายุสูงสุด 80 ปี อายุเฉลี่ย
                  60.59 ปีกลุ่มตัวอย่างโรคเบาหวาน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 65.7 อยู่ในช่วงอายุ 55-64 ปี

                  และอายุ ≥65 ปี มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 40.0 อายุต่ำสุด 40 ปี อายุสูงสุด 79 ปี อายุเฉลี่ย 61.28 ปี
                            ส่วนที่ 2 ข้อมูลผลของการสนทนาสร้างแรงจูงใจร่วมกับการใช้นวัตกรรม
                         1.พบว่าผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของค่าความดันโลหิตตัวบน Systolic Blood Pressure ของกลุ่ม

                  ตัวอย่างโรคความดันโลหิตสูง หลังให้คำปรึกษาสนทนาสร้างแรงจูงใจร่วมกับการใช้นวัตกรรม มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า
                  ก่อนเข้ารับการให้คำปรึกษาสนทนาสร้างแรงจูงใจ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
                         2.พบว่าผลการเปรียบเทียบระดับน้ำตาลสะสม HbA1C ของกลุ่มตัวอย่างโรคเบาหวาน หลังให้
                  คำปรึกษาสนทนาสร้างแรงจูงใจร่วมกับการใช้นวัตกรรม มีระดับ HbA1C ต่ำกว่าก่อนเข้ารับการให้คำปรึกษา

                  สนทนาสร้างแรงจูงใจ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

                  6.สรุปและข้อเสนอแนะ
                         การนำเทคโนโลยีมาใช้ติดตาม คัดกรองผู้มารับบริการเบื้องต้น  และกระตุ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
                  การดูแลสุขภาพของผู้เข้ารับการ ประเมินภาวะสุขภาพ โดย อสม.พยาบาลพี่เลี้ยง และนำข้อมูลมาวิเคราะห์

                  วางแผนการรักษาได้ถูกต้อง
                         การพัฒนานวัตกรรมนี้สามารถนำไปใช้ ให้ครอบคลุมทุกชุมชน (เตรียมขยายงานไปยังโรงพยาบาล

                  ส่งเสริมสุขภาพที่อยู่ในเครือข่ายของโรงพยาบาลน่าน) และนำไปสู่การเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูลใหญ่ของ
                  โรงพยาบาล เพื่อที่จะสามารถเรียกดูข้อมูลของผู้รับบริการตามหน่วยการรักษาในโรงพยาบาลได้ ซึ่งการนำ
                  เทคโนโลยีมาใช้ออกแบบ Application เพื่อการปรับเปลี่ยน และติดตามพฤติกรรมสุขภาพ ทำให้เกิดผลดีทั้ง
                  ผู้รับบริการ และผู้ให้บริการ การติดตาม การแปลผล การมารับบริการได้ตรงตามนัดของแพทย์ ทำให้เกิดสุ
                  ภาวะที่ดี
   269   270   271   272   273   274   275   276   277   278   279