Page 440 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 440
K35
การคัดเข้า ได้แก่ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยการวินิจฉัยโรค AIS/TIA อายุมากกว่า 18 ปี
จำหน่ายด้วยสถานะมีชีวิต และมีค่า LDL-C ขณะรักษาในโรงพยาบาลและหลังจำหน่ายอย่างน้อย 1 ครั้ง
ณ ช่วงติดตามที่ 1 ปี และเกณฑ์การคัดออก ได้แก่ มีประวัติแพ้ยาหรือข้อห้ามใช้ยาโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน
จากลิ่มเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองแตก เสียชีวิตขณะรักษาในโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา ผู้ป่วยระยะ
สุดท้าย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสองกลุ่ม โดยสถิติ
chi-square หรือ fisher exact ในข้อมูลตัวแปรอันดับหรือกลุ่ม และสถิติ independent t-tests หรือ
Whitney U tests ในข้อมูลตัวแปรแบบต่อเนื่อง กำหนดค่า p < 0.05 แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ผลการศึกษา
พบผู้ป่วย AIS/TIA ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเข้าจำนวน 366 ราย แบ่งเป็นช่วงก่อน (ปีงบ 2564) และหลัง
การให้บริบาลเภสัชกรรม (ปีงบ 2565) จำนวนกลุ่มละ 183 ราย ผู้ป่วยอายุเฉลี่ย 63.59 ±10.60 ปี และ
63.99±10.75 ปี ตามลำดับ ส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 75 ปี ร้อยละ 88.52 และร้อยละ 84.15 ตามลำดับ
เปรียบเทียบลักษณะพื้นฐานของทั้งสองกลุ่มใกล้เคียงกัน พบว่าหลังการให้บริบาลเภสัชกรรม พบอัตราการสั่ง
ใช้ยากลุ่ม high-intensity statins สำหรับการป้องกันทุติยภูมิสอดคล้องตามแนวทางการรักษาเพิ่มขึ้นจาก
ร้อยละ 15.30 เป็นร้อยละ 53.01 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) และพบอัตราการบรรลุ
เป้าหมายระดับ LDL-C ณ ติดตาม 1 ปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 40.98 เป็นร้อยละ 50.27 (p = 0.075) และอัตรา
การกลับเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลซ้ำด้วยโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหัวใจและหลอดเลือด หลัง
จำหน่าย ณ ช่วงติดตามที่ 1 ปี ลดลงจากร้อยละ 15.85 เป็นร้อยละ 13.66 (p = 0.555) อย่างไรก็ตามไม่พบ
ความแตกต่างทางสถิติ
อภิปรายผล
หลังการให้บริบาลเภสัชกรรมสามารถเพิ่มอัตราการสั่งใช้ยากลุ่ม high-intensity statin ในการ
ป้องกันทุติยภูมิสอดคล้องตามแนวทางการรักษาเพียงร้อยละ 53.01 และพบอัตราการบรรลุเป้าหมายระดับ
LDL-C ณ ติดตามที่ 1 ปี ได้เพิ่มขึ้นไม่ถึงร้อยละ 10 อาจเป็นผลจากครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา
มีระดับ LDL-C ต่ำกว่า 100 mg/dl เป็นเหตุผลหนึ่งที่ไม่ได้รับการสั่งใช้ยา/ยอมรับคำแนะนำของเภสัชกรใน
การปรับชนิดยาสเตติน และคำแนะนำในการลดระดับ LDL-C ให้น้อยกว่า 70 mg/dl ยังคงเป็นข้อถกเถียง
ในทางปฏิบัติ
สรุปและข้อเสนอแนะ
การให้บริบาลเภสัชกรรมสามารถเพิ่มอัตราการสั่งใช้ยากลุ่ม high-intensity statin สำหรับ
การป้องกันทุติยภูมิในผู้ป่วย AIS/TIA สอดคล้องตามแนวทางการรักษา เพิ่มการบรรลุเป้าหมายระดับ LDL-C
และลดการกลับเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมทั้งในด้าน
ระยะเวลาที่ทำการศึกษา รวมถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการบรรลุเป้าหมายการรักษา