Page 446 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 446
K41
พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยความดันโลหิตสูงเพื่อลดการเกิด stroke
แพทย์หญิงนิยา สือนิ, นางรสนานี วานิ, นางสุไลณี สะแต และนางสาวจินดา แซ่นะ
โรงพยาบาลรามัน จังหวัดยะลา เขตสุขภาพที่ 12
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหา
จากการเก็บข้อมูลผู้ป่วยส่งต่อพบว่า stroke เป็นโรคอันดับต้นๆ ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการวิเคราะห์
ข้อมูล พบว่าผู้ป่วย stroke ส่วนหนึ่งเป็นผู้ป่วยในกลุ่มโรคเรื้อรังคือความดันโลหิตสูง ซึ่งในปี 2562 มีจำนวน
ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง 6,853 ราย เกิด stroke 190 ราย พบในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง 89 ราย คิดเป็นร้อยละ
2.45 ซึ่งส่งผลทำให้พิการ หรือเสียชีวิต และทำให้เกิดปัญหาระยะยาว ในการดูแลรักษา และเป็นภาระของ
ครอบครัว โดยสาเหตุจากควบคุมความดันได้ดีน้อย คิดเป็นร้อยละ 37.92 และพบในกลุ่ม CVD RISK ระดับ
3-5 คิดเป็นร้อยละ 2.59 เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหาร และการรับรู้ตนเองเกี่ยวกับโรค บางคนขาดนัด
ขาดการติดตามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด นัดผิดพลาด แนวทางปฏิบัติเพื่อดูแลผู้ป่วยหรือรักษา
ต่อไม่ชัดเจน ขาดการเชื่อมโยงกับรพสต.
วัตถุประสงค์การศึกษา
เพื่อให้ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงเกิด STROKE ลดลง
วิธีการศึกษา
ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2563 ประชุมร่วมกับทีมสหวิชาชีพและวางแผนกำหนดแนวทาง แก้ไขดังนี้
ด้านกระบวนการ
1. มีการคัดกรอง CVD Risk ในผู้ป่วยที่ขาดนัดและมาตามนัด โดยเพื่อตั้งค่าคำนวณCVD RISK ในHOS-4
2. กำหนดบทบาทหน้าที่ของพยาบาลในคลินิกและแต่ละทีมสหวิชาชีพที่ชัดเจนในการดูแลผู้ป่วย
ด้านเครื่องมือ/สถานที่
1. ทบทวนแนวทางการดูแลรักษาและส่งต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูงมารพ.
2. ใช้เทคโนโลยีติดต่อสื่อสารเพื่อคืนข้อมูลผู้ป่วยให้กับรพสต.โดยใช้ไลน์line
3. จัดรายการทางวิทยุ(ทุกวันศุกร์) ให้ความรู้เกี่ยวกับสัญญาณ stroke ในชุมชนโดย
4. เพิ่มสื่อเรียนรู้วิดีโอหนังสั้น เรื่อง STROKE
5. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในคลินิก เน้นการมีส่วนร่วมของญาติ