Page 647 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 647

P24


                  ผลการศึกษา

                         1) แบบประเมิน CAUTI Prevention Checklist : NO-CAUTI ติดตามการปฏิบัติตามแนวทางการ
                  พยาบาล พบพยาบาลปฏิบัติและบันทึกในแบบประเมินร้อยละ 100
                         2) พยาบาลผู้ใช้แนวทางปฏิบัติ NO-CAUTI ศึกษาผ่านโปสเตอร์ และคู่มือ QR cord มีความพึงพอใจ
                  ในระดับมาก ร้อยละ 80 มีความสะดวก น่าสนใจ และเนื้อหาครอบคลุมเข้าใจง่าย



                         3) อัตราการเกิด CAUTI ลดลง ดังแสดงในแผนภูมิที่ 1


                     15                     14                       อัตราการเกิด CAUTI ครั้งต่อ 1,000 วันคาสายสวนปัสสาวะ

                   10                   8.06                       6.85
                          5.15   5.38  4.08                    5.56
                    5                         3.05 3.36  2.7  2.8
                        0      0                         0             0  0  0   0  0  0   0  0   0  0  0
                     0

                         ม.ค.-65  ก.พ.-65  มี.ค.-65  เม.ย.-65  พ.ค.-65  มิ.ย.-65  ก.ค.-65  ส.ค.-65  ก.ย.-65  ต.ค.-65  พ.ย.-65  ธ.ค.-65  ม.ค.-66  ก.พ.-66  มี.ค.-66  เม.ย.-66  พ.ค.-66  มิ.ย.-66  ก.ค.-66  ส.ค.-66  ก.ย.-66  ต.ค.-66  พ.ย.-66  ธ.ค.-66  ม.ค.-67
                                                                        ข้อมมูลหลังพัฒนาแนวทาง No-CAUTI
                                        ข้อมูลก่อนพัฒนาแนวทาง NO-CAUTI
                          แผนภูมิที่ 1 แสดงอัตราการเกิด CAUTI (ครั้งต่อ 1,000 วันคาสายสวนปัสสาวะ) ตั้งแต่เดือน มกราคม 2565 ถึง มกราคม 2567


                  อภิปรายผล

                         อัตราการเกิด CAUTI น้อยกว่า 1.5 ครั้งต่อ 1,000 วันคาสายสวนปัสสาวะ และจำนวนครั้งของการ
                  เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ป่วยใส่สายสวนคาปัสสาวะ ลดลงร้อยละ 70 ภายในระยะเวลา 6
                  เดือน ซึ่งบรรลุวัตถุประสงค์

                  สรุปและข้อเสนอแนะ

                         1) เกิดกระบวนการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในหน่วยงาน ร่วมกันพัฒนาแก้ไขปัญหาโดยการสืบค้น
                  ข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ปฏิบัติการพยาบาลป้องกันการติดเชื้อในระบบ
                  ทางเดินปัสสาวะจากการคาสายสวนปัสสาวะ NO-CAUTI ที่ง่ายต่อการนำไปใช้ในหน่วยงาน
                         2) การปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติจากสิ่งที่บุคลากรปฏิบัติเป็นประจำมาสู่การปฏิบัติฉบับปรับปรุงตาม

                  หลักฐานเชิงประจักษ์ อาจเกิดความไม่คุ้นเคยต้องใช้เวลา และความร่วมมือจากบุคลากรในหน่วยงาน มีการ
                  ติดตามเฝ้าระวังและสังเกตการณ์จาก ICWN ของหน่วยงานอย่างสม่ำเสมอ

                         ข้อเสนอแนะ

                         การนำแนวทางปฏิบัติการพยาบาลป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะจากการคาสายสวน
                  ปัสสาวะ NO-CAUTI เผยแพร่ไปยังหอผู้ป่วยอื่นๆ ศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่มีความหลากหลาย ในด้านเพศ ช่วง

                  อายุ หรือภาวะความเจ็บป่วย และเป็นข้อมูลในการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยให้ปลอดภัยป้องกันการติดเชื้อใน

                  ระบบทางเดินปัสสาวะจากการคาสายสวนปัสสาวะต่อไป
   642   643   644   645   646   647   648   649   650   651   652