Page 200 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 200
คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)
แม้ว่าไม้จิ้มฟันใช้ง่ายกว่าไหมขัดฟัน แต่ก็มีข้อจำกัดมากกว่า ตรงที่ใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีช่องว่าง
ระหว่างซี่ฟัน ไม่สามารถใช้ขัดทำความสะอาดตรงมุมโค้งของฟัน และซอกฟันปกติเพราะโอบรอบฟันไม่ได้
๒. การทำความสะอาดฟันเทียม
ฟันเทียมมี ๒ ชนิด ได้แก่ ฟันเทียมชนิดถอดได้ และฟันเทียมชนิดติดแน่น
๑) ฟันเทียมชนิดถอดได้
ควรถอดฟันเทียมชนิดถอดได้ออกเพื่อล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
พร้อมกับทำความสะอาดฟันแท้ในปาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟันผุและมีกลิ่นปาก นอกจากนี้ ควรถอดฟันเทียมออก
ก่อนนอน เพื่อให้เหงือกได้พักและฟันเทียมที่ถอดออกต้องล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำไว้ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ฐาน
พลาสติกของฟันปลอมแห้ง
วิธีการทำความสะอาดฟันเทียม ให้ใช้แปรงสีฟันแตะน้ำยาล้างจานหรือสบู่ ขัดถูฟันเทียม
ให้สะอาดหนึ่งครั้งก่อน แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นใช้แปรงสีฟันกับยาสีฟันขัดถูให้ทั่ว ล้างด้วยน้ำสะอาด
อีกครั้งและควรมีภาชนะคอยรองรับเพื่อป้องกันฟันปลอมตกหล่นด้วย กรณีมีคราบหินปูน คราบบุหรี่เกาะติด
ฟันเทียม สามารถใช้น้ำยาเคมี หรือยาเม็ดสำหรับแช่ทำความสะอาดฟันเทียมได้ ฟันเทียมชนิดถอดได้ฐานอะคริลิก
ใช้แปรงสีฟันขนอ่อน แปรงร่วมกับน้ำสบู่ถอดแช่น้ำก่อนนอนทุกครั้งและฐานโลหะ
ภาพที่ ๑๖ : การทำความสะอาดฟันเทียม
ข้อควรระวัง
ห้ามนำฟันเทียมแช่ในน้ำเดือด น้ำร้อน เพราะจะทำให้ฟันเทียมบิดเบี้ยว และไม่ควร
ตากแห้ง เพราะอาจแตกได้
ฟันเทียมบางชนิดมีอายุการใช้งาน อาจต้อง
ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ ถ้ามีการแตกหัก
ฟันเทียมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือก
และเนื้อเยื่อช่องปาก ควรได้รับการแก้ไขหากทิ้งไว้ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่
ทำให้เกิดแผลมะเร็งในช่องปากได้
๒) ฟันเทียมชนิดติดแน่น
จะสวมทับลงไปบนซี่ฟัน หรือใช้ฟันข้างเคียงช่องว่าง
เป็นหลักยึด ฟันเทียมชนิดนี้จะไม่มีตะขอหรือฐานบนเหงือก หรือเพดานปาก
ไม่สามารถถอดออกได้ ดังนั้น การรักษาความสะอาด นอกจากการ
แปรงฟันตามปกติแล้ว ควรใช้ไหมขัดฟันสอดเข้าทำความสะอาดใต้ฐาน
ของฟันเทียมติดแน่นด้วย
ภาพที่ ๑๗ : ครอบฟัน, สะพานฟัน
๑๒๔