Page 227 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 227
คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)
๖. บีบจมูกผู้ป่วยให้แน่น
๗. เป่าลมเข้าไปในปากผู้ป่วยให้เต็มที่ สังเกตดูที่หน้าอกจะขยายขึ้นตามจังหวะการเป่า
๘. ผู้ช่วยหายใจ จงทำซ้ำ เริ่มตั้งแต่ข้อ ๔ - ๘ ใหม่ ประมาณนาทีละ ๑๒ ครั้ง
การเป็นลม
การเป็นลม เป็นอาการที่เกิดขึ้นเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอชั่วคราว ทำให้ผู้ป่วยเป็นลม
หมดสติไปชั่วครู่ มักมีอาการซึม เวียนศีรษะ และมีอาการตัวซีดเย็นเฉียบร่วมด้วย ความรู้สึกเช่นนี้อาจเกิดขึ้น
โดยไม่หมดสติก็ได้ การตกใจรุนแรง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจทำให้ความดันโลหิตลดลง และรู้สึกจะเป็นลมได้
การเป็นลมอย่างเดียวโดยไม่มีอาการอื่นแทรกนั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าวิตก แต่ถ้าเป็นลมบ่อยๆ หรือมีอาการอื่นๆ
ร่วมด้วย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรึกษาแพทย์ ดังนั้นถ้าการเป็นลม หมดสติไปชั่วคราว เป็นสิ่งที่ไม่น่ากังวล แต่ถ้า
หมดสติไปนานแต่หายใจได้ดี และรู้สึกตัวภายใน ๒ - ๓ นาที หายใจไม่ดี ไม่สม่ำเสมอ หรือหายใจช้าผิดปกติ
ต้องนำส่งโรงพยาบาลทันที และระหว่างทางไปโรงพยาบาล ควรอยู่ในท่านอนกึ่งคว่ำเพื่อป้องกันไม่ให้
ทางเดินหายใจอุดตัน
เอกสารและสื่ออ้างอิง :
(๑) ศศิษมา จันทรพงษ.์ คู่มือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พิมพ์ครั้งที่ ๑ กรุงเทพ : ห้างหุ้นส่วนสามัญสำนักพิมพ์
บุ๊คเพรส และบริษัท ดาวกมลสมัย จำกัด., ๒๕๕๐.
ใบความรู้ที่ ๗.๒
การห้ามเลือด
การตกเลือด
การตกเลือด (bleeding) หมายถึง การมีเลือดไหลออกจากเส้นเลือดหรือหลอดเลือดที่ฉีกขาด
ถ้ามีเลือดออกมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการช็อค และอาจถึงแก่ความตายได้ ถ้าไม่ได้รับการปฐมพยาบาล
และแก้ไม่ทันท่วงที การตกเลือดแบ่งออกเป็น ๒ ชนิด คือ
๑. การตกเลือดภายนอก เราสามารถมองเห็นเลือดที่ออกมาได้ เช่น ที่บริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะ
บาดแผลที่ศีรษะ และลำตัว
๒. การตกเลือดภายใน หรือเลือดตกใน ไม่สามารถเห็นได้จากภายนอก เกิดจากบาดแผลในร่างกาย
ได้แก่ อวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ตับ ม้าม ฯ เลือดออกในสมองเป็นต้น จะมีอาการแสดงออกของการที่มี
เลือดตกในให้มาเห็นหรือเราสามารถทราบได้
๑๕๑