Page 228 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 228
คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)
อาการแสดงของการตกเลือด
๑. มีอาการซีดลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้ที่ผิวหนังทั่วๆ ไป เล็บ ริมฝีปาก ฝ่ามือ และที่สามารถ
เห็นได้ชัดเจน คือ เปลือกตาด้านใน โดยเปิดเปลือกตาล่างดู จะเห็นว่ามีสีซีดชัดเจน
๒. เวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย หูอื้อ ใจสั่น และอ่อนเพลีย
๓. มีเหงื่อออกทั่วตัว มือเท้าเย็น ซีด และหนาวสั่น
๔. หัวใจเต้นเร็ว ถ้าจับชีพจรดู จะพบว่าเต้นเร็ว แต่เบากว่าปกติ
๕. หายใจเร็ว ถี่ ตื่นและหอบ
๖. กระหายน้ำ กระสับกระส่าย
๗. สลบ และหมดสติ ถ้ายังไม่สามารถห้ามเลือด หรือแก้ไขทดแทนเลือดที่สูญเสียไปได้ ผู้ป่วย
จะถึงแก่ความตายในที่สุด
หลักการปฐมพยาบาล
๑. ให้นอนนิ่งๆ และให้ศีรษะอยู่ในแนวราบหรือต่ำ ยกปลายขาทั้งสองข้างให้สูง เพื่อให้เลือดไปเลี้ยง
สมองได้มากที่สุด
๒. ทำการห้ามเลือดโดยเร็วที่สุด โดยวิธีใด วิธีหนึ่ง
๓. ถ้าไม่รู้สึกตัว ให้ระวังเรื่องทางเดินหายใจ อย่าให้อุดตัน ถ้าไม่หายใจให้ทำการผายปอดทันที
๔. ให้การปฐมพยาบาลส่วนอื่นๆ เท่าที่จำเป็นและต้องทำ ด้วยความรวดเร็ว
๕. สังเกตอาการ นับชีพจร และการหายใจอยู่ตลอดเวลา
๖. นำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
การปฐมพยาบาลการตกเลือด (ห้ามเลือด) ภายนอก
๑. กดลงบนแผลหรือตำแหน่งที่มีเลือดออก โดยใช้นิ้วมือ หรือผ้าสะอาด ควรให้ผู้ป่วยนอนและ
ยกส่วนแขนหรือขาที่มีเลือดออกให้อยู่สูงเท่าหน้าอกหรือหัวใจเพราะจะทำให้เลือดไหลสู่บริเวณบาดแผลน้อยลง
ทำให้เลือดหยุดได้ง่าย
๒. กดเส้นเลือดใหญ่ที่มาสู่บริเวณบาดแผลนั้น ใช้ในกรณีที่เลือดออกมากเพื่อไม่ให้เลือดไหลมาสู่แผล
เลือดที่ออกมาก่อนจะได้มีโอกาสแข็งตัวของมันเอง ทำให้เป็นการห้ามเลือดไปในตัว
๓. การขันชะเนาะ หรือเรียกว่า “การใช้ทูนิเกต์” เป็นการใช้เครื่องรีดเพื่อไม่ให้มีเลือดไหลไปสู่บริเวณ
บาดแผลที่มีเลือดออกนั้น ใช้ได้ในกรณีการห้ามเลือดที่แขนและขาที่มีเลือดออกมาก และไม่สามารถทำการ
ห้ามเลือดได้ดังสองวิธีที่ได้กล่าวมาแล้ว เช่น แผลเหวอะหวะกว้างใหญ่ หรือมีกระดูกหักร่วมด้วย
เอกสารและสื่ออ้างอิง :
ธีรวัฒน์ กุลทมันน์. การปฐมพยาบาลเนื่องจากการบาดเจ็บจากการกีฬา พิมพ์ครั้งที่ ๓., บริษัทโรงพิมพ์
ไทยวัฒนาพานิช จำกัด กรุงเทพมหานคร., ๒๕๔๒.
๑๕๒