Page 122 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 122
C14
เพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วย AI
(Artificial Intelligence) และ BIG DATA
นายแพทย์ธนพล สุภาผล และคณะผู้วิจัย
โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี เขตสุขภาพที่ 6
ประเภท นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุสำคัญลำดับต้นๆ ของการเสียชีวิต แม้ว่าจะมีการรณรงค์และมีความ
ร่วมมือจากหลายภาคส่วนอย่างจริงจังในเรื่องนี้ แต่จำนวนอุบัติเหตุและอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนน
ของประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่สูงมาก จากข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บ กองป้องกัน
การบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค พบว่าในปี 2565 จังหวัดจันทบุรีมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงถึง 44.5 ราย
ต่อแสนประชากร มากเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย การมีข้อมูลทางอุบัติเหตุและเทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วย
สนับสนุนการเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดจำนวนอุบัติเหตุลงซึ่งเป้าหมายที่ทุกภาคส่วนมุ่งหวังให้เกิดขึ้น ทำให้
การดูแลผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และการจัดสรรทรัพยากรของโรงพยาบาลมีความคุ้มค่า
รวมถึงคุ้มทุน
วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บรุนแรงของสถานบริการสุขภาพของพื้นที่จังหวัดจันทบุรี
2. พัฒนาข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน
3. เพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้บาดเจ็บ
4. สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อให้เกิดความตระหนัก และตื่นตัว
ในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
วิธีการศึกษา
1. สืบค้นคลังข้อมูลเดิมที่มีการบันทึกผู้ป่วยอุบัติเหตุของประเทศไทย และจังหวัดจันทบุรี
2. หาสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ
3. Trauma team ประชุมเพื่อจัดระบบการเก็บข้อมูลผู้บาดเจ็บภายในเขตจังหวัดจันทบุรี
4. วิเคราะห์ข้อมูลจากคลัง Big data
5. นำเสนอข้อมูลการบาดเจ็บและติดตามผลทุกเดือนในที่ประชุม Trauma audit case ของกลุ่มงาน
ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระปกเกล้า
6. ใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการจราจร
7. ประชาสัมพันธ์อุบัติเหตุบนท้องถนน
8. ประชุม Referral conference นิเทศติดตามผลการดำเนินการในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี
9. ประเมินผล
ผลการศึกษา
1. ข้อมูลผู้ป่วยอุบัติเหตุเดือนสิงหาคม 2566 ถึงมกราคม 2567 รวม 1515 ราย มีสาเหตุจากอุบัติเหตุ
บนท้องถนน จำนวน 961 ราย คิดเป็นร้อยละ 63 โดยเกิดจากอบัติเหตุรถจักรยานยนต์ถึง 882 ราย หรือร้อยละ 91
2. มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยอุบัติเหตุบนท้องถนนแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบช่วงปี 2565 กับ 2566
เท่ากับร้อยละ 23 กับ 17 ตามลำดับ