Page 159 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 159

D23



                         (3) ประชุมชี้แจงในการเริ่มใช้แนวทางการเจาะเลือดใหม่ โดยเริ่มเก็บข้อมูล 1 ตุลาคม 2563 ถึง 30
                  กันยายน 2564 จำนวน 189 ราย และติดตามผลการดำเนินงานทุก 1 เดือน พบว่าขณะเจาะเลือดทารกร้องไห้

                  งอแงและไม่นิ่งขณะเจาะเลือด จึงนำไปสู่วงรอบที่ 2
                         วงรอบที่ 2 ปรับการเจาะเลือดทารกจากเดิมนำทารกมาเจาะเลือดได้เลยเมื่อครบเวลาที่กำหนด

                  เปลี่ยนเป็นให้ทารกดูดนมให้อิ่มก่อนเจาะเลือดทุกครั้ง เพื่อทารกจะได้ไม่ร้องไห้และดิ้นขณะเจาะเลือด โดยเริ่ม
                  เก็บข้อมูล 1 ตุลาคม 2563 ถึง 30 กันยายน 2565 จำนวน 209 ราย และติดตามผลการดำเนินงานทุก 1 เดือน

                         ระยะที่ 3 ประเมินผลการปฏิบัติงาน

                  ผลการศึกษา

                         ระยะที่ 1 ขณะปฏิบัติตามแนวทางคัดกรองภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนเดิม พบทารกมีค่า TSH

                  มากกว่า 11.24 mU/L= 52 ราย คิดเป็น 16.3%(n=319) เมื่อวิจัยเพื่อเปรียบเทียบระยะเวลาการเจาะเลือด
                  พบว่า ทารกแรกเกิดที่เจาะเลือดที่เวลา 50 - 72 ชั่วโมงหลังคลอด มีค่า TSH>11.24 mU/L น้อยกว่าทารกที่

                  เจาะเลือดที่เวลา 48 - 49 ชั่วโมง 59 นาทีหลังคลอด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05)
                         ระยะที่ 2 หลังจากปฏิบัติตามแนวทางคัดกรองภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนรูปแบบใหม่วงรอบที่ 1

                  พบทารกมีค่า TSH มากกว่า 11.24 mU/L=8 รายคิดเป็น 4.2%(n=189) และวงรอบที่ 2 ทารกมีค่า TSH

                  มากกว่า 11.24 mU/L=8 รายคิดเป็น 3.8%(n=209) และเจ้าหน้าที่พยาบาลทุกคนเจาะเลือดได้ถูกต้อง
                  ไม่พบว่ากระดาษซับเลือดเกิดความเสียหาย

                         ระยะที่ 3 ผลการวิจัยพบว่าหลังจากปฏิบัติตามแนวทางคัดกรองภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนรูปแบบใหม่
                  มีอัตราของค่า TSH ที่มากกว่า 11.24 mU/Lลดลง มีประสิทธิภาพและแม่นยำขึ้นจึงทำให้อัตราทารกที่กลับมา

                  เจาะเลือดยืนยันลดลงตามไปด้วยดังนี้ ปีงบประมาณ 2563-2565 พบอัตราทารกกลับมาเจาะเลือดยืนยันเท่ากับ

                  ร้อยละ 16.3, 4.2 และ 3.8 ตามลำดับ

                  อภิปรายผล

                         พบว่าหากเลื่อนระยะเวลาการเจาะเลือดทารกก่อนจำหน่ายกลับบ้านออกไปอีก 2 ชั่วโมง จะทำให้
                  ทารกมีค่า TSH ลดลงและได้ค่าที่แม่นยำขึ้น ลดภาระมารดาที่ต้องเดินทางนำทารกกลับมาเจาะเลือดเพื่อยืนยัน

                  ผลซ้ำ ผู้รับบริการไม่ต้องถูกเจาะเลือดหลายครั้งและลดภาระงานของเจ้าหน้าที่

                  สรุปผลและข้อเสนอแนะ

                         การคัดกรองภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนในเด็กแรกเกิดมีประโยชน์ในการวินิจฉัยโรคได้ทันท่วงที และ
                  ให้การรักษาก่อนอายุสามเดือนจะช่วยป้องกันภาวะปัญญาอ่อนในเด็กแรกเกิดได้ ซึ่งควรปฏิบัติตามแนวทาง

                  คัดกรองภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนในเด็กแรกเกิดอย่างต่อเนื่อง
   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163   164