Page 155 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 155
D19
ผลของโปรแกรมการวางแผนจำหน่ายทารกที่มีภาวะตัวเหลืองโดยใช้รูปแบบ IDEAL
ต่อความรู้และทักษะของผู้ดูแล (The effect of IDEAL model neonatal jaundice
planning program on caregiver's knowledge and skill)
นางศศิประภา สุระขัน
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี เขตสุขภาพที่ 6
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาในงานวิจัย
ภาวะตัวเหลืองเป็นปัญหาที่สำคัญและพบได้มากที่สุดในทารกแรกเกิด จากข้อมูลของกระทรวง
สาธารณสุข พบว่าภาวะตัวเหลืองในประเทศไทย เป็นปัญหาที่พบได้มากถึงร้อยละ 45-60 ในทารกคลอดมีชีพ ซึ่ง
เกิดจากการสะสมสารสีเหลืองที่มีชื่อว่า บิลลิรูบิน ในกระแสเลือดสูงกว่าปกติ ร่วมกับตับของทารกแรกเกิดยังไม่
สมบูรณ์มากพอที่จะกำจัดบิลลิรูบินออกจากร่างกายได้ สารสีเหลืองนี้จะไปเกาะตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำ
ให้ทารกมีอาการสีผิวเหลืองหรือตาเหลือง อันตรายจากภาวะตัวเหลืองในทารกจากสถิติปี 2563 ถึง 2565 ของ
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่ามีทารกที่เข้ารับการรักษาด้วยภาวะตัวเหลืองจำนวน 816, 921 และ
804 ราย ตามลำดับ และเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดป่วย จำนวน 202, 155 และ 128 รายตามลำดับ
ในจำนวนนี้มีทารกตัวเหลืองที่ได้รับการรักษาจำหน่ายกลับบ้านและกลับมารักษาซ้ำด้วยภาวะตัวเหลืองครั้งที่ 2
จำนวน 124 ,107 และ 94 ราย คิดเป็นร้อยละ 61.38, 69.03 และ 73.44 การเข้ารับการรักษาซ้ำมีผลกระทบต่อ
สัมพันธภาพของมารดาและทารก ต้องแยกอยู่ป่วยที่โรงพยาบาล มีผลกระทบต่อจิตใจมารดา เกิดความวิตกกังวล
กับความเจ็บป่วยของบุตร การให้นมมารดาไม่ต่อเนื่อง จากการวิเคราะห์สาเหตุที่ทารกมีภาวะตัวเหลือง
จากการทบทวนวรรณกรรมพบว่า IDEAL Model เป็นรูปแบบหนึ่งในการวางแผนจำหน่าย ประยุกต์
จากแนวปฏิบัติทางคลินิกของ AHRQ สภาวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขแห่งชาติของประเทศ
ออสเตรเลีย มีขั้นตอนหรือวิธีการตามอักษรย่อ 5 ตัวคือ I-Including, D-Discussion, E-Education, A-
Assessment และ L-Listen โดยเน้นที่ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมในการวางแผนจำหน่ายเพื่อการกลับไปดูแล
ต่อเนื่องที่บ้าน (NHMRC,1999) การวางแผนจำหน่ายโดยใช้ IDEAL Model มีข้อดีคือเป็นการสื่อสารสองทาง โดย
ให้ผู้รับสารมีส่วนร่วมในการวางแผนในการดูแลผู้อื่น รวมถึงการฝึกปฏิบัติส่งผลให้มีความรู้และทักษะได้ดี ซึ่งจาก
การทบทวนงานวิจัยที่ได้นำ IDEAL Model ไปใช้ในการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยกลุ่มโรคต่าง ๆ เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน
โรคหลอดเลือดสมอง พบว่าผลลัพธ์ทางคลินิกดีขึ้น และไม่พบอัตราการกลับมารักษาซ้ำภายใน 28 วัน ดังนั้น
แนวคิดนี้จึงเหมาะสมในการพัฒนาความรู้ของผู้ป่วยหรือผู้ดูแลได้อย่างต่อเนื่อง แต่งานวิจัยที่นำ IDEAL Model
ไปใช้ในการวางแผนจำหน่ายทารกแรกเกิดยังพบได้น้อยประกอบกับจำนวนทารกตัวเหลืองที่กลับมารักษาซ้ำใน
หอผู้ป่วยทารกแรกเกิดป่วยมีจำนวนเพิ่มทุกปี ผู้วิจัยจึงสนใจนำ IDEAL Model มาประยุกต์ใช้ในการดูแลและ
วางแผนจำหน่ายทารกแรกเกิดที่เข้ารับการรักษาด้วยภาวะตัวเหลืองในหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดโรงพยาบาล
เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้ป่วยและครอบครัว ลดการกลับมารักษาซ้ำด้วยภาวะตัวเหลือง
วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความรู้ของผู้ดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลืองก่อนและหลังการเข้าโปรแกรมการ
วางแผนจำหน่ายโดยใช้รูปแบบ IDEAL
2. เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยทักษะของผู้ดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลืองก่อนและหลังการเข้าโปรแกรมการ
วางแผนจำหน่ายโดยใช้รูปแบบ IDEAL