Page 245 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 245
F31
การพัฒนารูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
โรงพยาบาลโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
Development of Nursing Model for Pregnancy with Preterm Labor Pain
at Phonsawan Hospital Nakhon Phanom Province
นางนพวรรณ เสโนฤทธิ์
โรงพยาบาลโพนสวรรค์ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม เขตสุขภาพที่ 8
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งเป็นปัญหา
ที่มีความสำคัญในทุกประเทศทั่วโลก เป็นภาวะแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์ที่พบบ่อย เป็นสาเหตุสำคัญของการตาย
ปริกำเนิดและภาวะทุพพลภาพ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพประชากรของประเทศ สถิติขององค์การอนามัยโลก
พบว่า ในแต่ละปีมีการคลอดก่อนกำหนดเฉลี่ยสูงถึง 12 ล้านคน ประเทศไทยมีรายงานข้อมูลการคลอดก่อนกำหนด
ปี พ.ศ. 2562-2564 ร้อยละ 14.54, 12.38 และ 12.47 ค่าเป้าหมายไม่เกินร้อยละ 9 ข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี
ของจังหวัดนครพนม ในปี 2564-2566 พบว่า มีหญิงตั้งครรภ์คลอดก่อนกำหนด ร้อยละ 9.91, 8.24 และ 8.65
มีแนวโน้มลดลงแต่ก็ยังเป็นปัญหาของจังหวัดนครพนม โรงพยาบาลโพนสวรรค์ เป็นโรงพยาบาลชุมชน ขนาด 30 เตียง
ไม่มีสูติแพทย์ มีหญิงตั้งครรภ์ที่เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดเข้ารับการรักษาและคลอดในปี พ.ศ. 2564-2566
จำนวน 21 คน, 26 คน และ 19 คน ตามลำดับคิดเป็นร้อยละ 16.67, 14.13 และ 10.86 มีแนวโน้มลดลง
แต่ยังเกินเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เพื่อพัฒนารูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด โรงพยาบาล
โพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
2. เพื่อประเมินผลการพัฒนารูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
โรงพยาบาลโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
วิธีการศึกษา
ใช้วิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ระยะเวลาตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2566 – เดือน มีนาคม 2567
คัดเลือกผู้เข้าร่วมการวิจัย โดยวิธีเลือกแบบเจาะจงและเข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
คือ กลุ่มผู้ร่วมพัฒนารูปแบบการพยาบาล ได้แก่ แพทย์ 2 คนพยาบาลวิชาชีพ 15 คน และกลุ่มตัวอย่าง
เป็นหญิงตั้งครรภ์ที่เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลโพนสวรรค์ด้วยอาการเจ็บครรภ์คลอด อายุครรภ์ ตั้งแต่ 32 สัปดาห์
ถึง 36 สัปดาห์ 6 วัน หรือหญิงตั้งครรภ์มีประวัติคลอดก่อนกำหนด จากคลินิกครรภ์เสี่ยง จำนวน 20 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบบันทึกประวัติและการตรวจร่างกาย แบบทดสอบความรู้ แบบประเมิน
การปฏิบัติตามแผน และแบบประเมินประสิทธิภาพการนำไปใช้ของรูปแบบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) โดยมีขั้นตอนการดำเนินการวิจัย ดังนี้
ระยะที่ 1 วิเคราะห์สถานการณ์และศึกษาเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการพยาบาล
หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ระยะที่ 3 นำรูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะ
เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดที่พัฒนาขึ้น มาใช้กับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 20 คน ระยะที่ 4 ประเมินผลการพัฒนารูปแบบ