Page 659 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 659

Q45

                  บริการคลินิกแบบครบวงจร การดำเนินการวิจัยครั้งนี้ เป็นไปตามแผนการจัดกิจกรรมในระบบการให้บริการ

                  ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ที่มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ของทีมสหวิชาชีพไว้ชัดเจน
                  ดังนี้ พยาบาล มีพยาบาลวิชาชีพจำนวน 2 ราย จะมีการคัดกรองผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โดยการซักประวัติ
                  ประเมินอาการและความรุนแรงของโรคจากค่าสมรรถภาพปอดที่ผู้ป่วยเป่าได้ในค่าที่สูงที่สุด ให้ความรู้เรื่องโรค
                  และคำแนะนำในการปฏิบัติติตัวเมื่อมีอาการหอบกำเริบก่อนมาโรงพยาบาล แพทย์ จะมีการประเมินอาการ

                  ของผู้ป่วยและให้การรักษาตามแนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และมีนัดประเมินคิดตามอาการ
                  อย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยที่มีปัญหาซับซ้อน ในการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน เภสัชกร จะมีการตรวจ
                  ประเมินเทคนิคการใช้ยาพ่น ปริมาณการใช้ยาพ่น ค้นหาปัญหาและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการใช้ยาพ่น

                  กายภาพบำบัด จะมีการตรวจประเมินสมรรถภาพปอดในทุกครั้งที่เข้ามารับบริการ และสอนการออกกำลังกาย
                  เพื่อบริหารกล้ามเนื้อช่วยหายใจ ช่วยให้สมรรถภาพปอดเพิ่มมากขึ้น พยาบาลเวชกรรม จะรับข้อมูลส่งต่อของ
                  ผู้ป่วยที่จะต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน จากนั้นจะมีการวางแผนเพื่อลงเยี่ยมบ้าน เพื่อติดตามอาการ

                  ต่อเนื่อง ค้นหาปัจจัยแวดล้อมที่เป็นตัวกระตุ้นการศึกษาวิจัยนี้วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติ
                  ทดสอบ paired t-test

                  ผลการศึกษา
                         จากการศึกษา ลักษณะของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็น เพศชาย 127 คน (ร้อยละ 71.75)

                  มีอายุเฉลี่ย 68 ปี ส่วนใหญ่มีสถานภาพ สมรส อาชีพ ทำสวน มีประวัติการสูบบุหรี่ 36 คน (ร้อยละ 20.34)
                  กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดก่อนเข้าระบบการให้บริการคลินิกแบบครบวงจร มีอัตราผู้ป่วยเกิดอาการหอบกำเริบ
                  เฉียบพลันเฉลี่ย 23 คนต่อเดือน และมีอัตราผู้ป่วย 1 รายที่กลับมานอนโรงพยาบาลซ้ำหลังจากจำหน่ายออก

                  จากโรงพยาบาล ภายใน 28 วัน  สำหรับผลการศึกษาครั้งนี้ พบว่า อัตราผู้ป่วยเกิดอาการหอบกำเริบ
                  เฉียบพลันเฉลี่ยเหลือ 16 คนต่อเดือน และมีอัตราผู้ป่วย 1 รายเท่าเดิมที่กลับมานอนโรงพยาบาลซ้ำหลังจาก
                  จำหน่ายออกจากโรงพยาบาล ภายใน 28 วัน  เมื่อเปรียบเทียบค่าสมรรถภาพปอดของผู้ป่วยปอดอุดกั้นเรื้อรัง
                  พบว่า ค่าสมรรถภาพปอดหลังได้รับการให้บริการคลินิกปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบครบวงจรเพิ่มสูงกว่าก่อนการให้

                  ระบบบริการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-Value 0.02 )
                         ตาราง เปรียบเทียบค่าสมรรถภาพปอด(Peak expiratory flow rate(PEFR)L/s) ของผู้ป่วยโรคปอด

                  อุดกั้นเรื้อรังก่อนและหลังการให้ระบบการให้บริการผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังครบวงจร


                   ค่าสมรรถภาพปอด      ค่าเฉลี่ย PEFR         SD               t-test           p-Value

                         ก่อน              226               66.4               1.65              0.02
                         หลัง              244               74.2

                  อภิปรายผล

                         ผลการศึกษาดังกล่าวแสดงว่า อัตราผู้ป่วยเกิดอาการหอบกำเริบเฉียบพลันเฉลี่ยลดลง การกลับมานอน
                  โรงพยาบาลซ้ำหลังจากจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล ภายใน 28 วันมีอัตราจำนวนผู้ป่วยเท่าเดิมและค่า
                  สมรรถภาพปอดของผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่า การจัดให้บริการคลินิกปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบครบวงจร
                  ช่วยให้พยาธิสภาพของผู้ป่วยดีขึ้น ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ครอบคลุมจากทีมสหวิชาชีพ ทำให้เกิดอาการหอบ

                  กำเริบลดลงและในรายที่มีปัญหาซับซ้อนได้มีการส่งต่อให้ดูแลต่อเนื่องที่บ้าน  ทำให้ลดการกลับมานอน
                  โรงพยาบาลซ้ำได้
   654   655   656   657   658   659   660   661   662   663   664