Page 703 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 703

Q15

                  บริบทของหน่วยงาน ซึ่งจากการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแส
                  เลือดในโรงพยาบาลวิเชียรบุรีนั้นพบว่า การปฏิบัติการพยาบาลยังมีความหลากหลายตามประสบการณ์ของ
                  แต่ละคน รวมทั้งยังขาดการส่งเสริมบทบาทพยาบาลในการค้นหาผู้ป่วยระยะแรก การเฝ้าระวังและการติดตาม

                  อาการผู้ป่วยไม่เป็นไปตามมาตรฐาน การดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดจึงเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องได้รับ
                  การพัฒนาในการดูแลให้มีประสิทธิภาพ
                         ผู้วิจัยในบทบาทของหัวหน้าหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย และเลขา Service plan sepsis ของ

                  โรงพยาบาลวิเชียรบุรี ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยและเล็งเห็นแนวทางการส่งเสริมศักยภาพด้าน
                  การพยาบาล โดยการพัฒนารูปแบบการพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดโรงพยาบาลวิเชียรบุรี
                  โดยการศึกษาผลการใช้รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลด้วยหลัก 4 S Fast track ต่อผลลัพธ์การพยาบาลใน
                  ผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลวิเชียรบุรี

                  วัตถุประสงค์การศึกษา

                         1. เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์การพยาบาลของการใช้รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลด้วยหลัก 4 S Fast
                  track ในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลวิเชียรบุรี
                         2. เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลด้วยหลัก 4 S Fast Track ไปใช้
                  ของพยาบาลวิชาชีพในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชายโรงพยาลวิเชียรบุรี

                  วิธีการศึกษา

                         การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Research) โดยใช้แนวคิดโดนาบิเดี่ยน
                  (Donabidian) ที่ให้กรอบการทำงานสำหรับตรวจสอบบริการด้านสุขภาพและการประเมินคุณภาพการดูแล
                  สุขภาพ ที่เสนอว่าการประเมินคุณภาพการบริการควรคำนึงถึงโครงสร้าง (structure) กระบวนการ
                  (process) และผลลัพธ์ (outcome) โครงสร้างสะท้อนคุณลักษณะของการบริการ ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ

                  การเลือกกลุ่มตัวอย่างคัดเลือกอย่างเจาะจง (Purposive  sampling) คำนวณกลุ่มตัวอย่างโดยใช้โปรแกรม
                  G*Power กำหนดให้ Effect Size = 0.5, Power = 0.8, α = 0.05, df = 1 ได้กลุ่มตัวอย่าง 32 ราย จึง
                  บวกเพิ่ม 20% = 6 ราย เพื่อป้องกันการ Drop Out ได้กลุ่มตัวอย่าง 40 รายต่อกลุ่ม รวมกลุ่มตัวอย่าง 80

                  ราย เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุม ไม่ได้ใช้รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลด้วยหลัก 4 S
                  Fast Track กลุ่มทดลอง ใช้รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลด้วยหลัก 4 S Fast Track โดยการดำเนินการวิจัย
                  แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
                         1) ระยะเก็บข้อมูลกลุ่มควบคุม คือ การเก็บข้อมูลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดก่อนใช้รูปแบบการปฏิบัติการ

                  พยาบาลด้วยหลัก 4 S Fast Track การดำเนินการระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2566 ถึง ธันวาคม 2566
                         2) ระยะสร้างคู่มือรูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดด้วยหลัก 4 S Fast
                  track และนำมาใช้ในการปฏิบัติการพยาบาล ดำเนินการระหว่างเดือน มกราคม 2567 ถึง กุมภาพันธ์ 2567

                         3) ระยะประเมินผลลัพธ์การใช้รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลด้วยหลัก 4 S Fast track ในผู้ป่วยติด
                  เชื้อในกระแสเลือด เดือน มีนาคม 2567
                  ผลการศึกษา
                         4.1 ผลสำเร็จของงานเชิงปริมาณ
                  ในการศึกษาครั้งนี้กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยพยาบาลวิชาชีพหอผู้ป่วยอายุรกรรมชายจำนวน 10 คน และผู้ป่วย

                  ที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดที่เข้ามานอนรักษาตัวในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย จำนวน 80 คน กลุ่มที่ไม่ได้ใช้
                  และกลุ่มที่ได้ใช้รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลด้วยหลัก 4 S Fast Track กลุ่มละ 40 คน อั เกิดภาวะ Septic
   698   699   700   701   702   703   704   705   706   707   708