Page 249 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 249

คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)



                                ตัวอย่างชนิดยา
                                เช่น Propanolol (๕๐ มิลลิกรัม), Isordil (๑๐ มิลลิกรัม), Herbessor (๓๐ มิลลิกรัมหรือ
                     ๖๐ มิลลิกรัม) เป็นต้น

                                ผลข้างเคียงที่อาจพบจากการใช้ยา
                                อาจเกิดการเต้นของหัวใจผิดปกติ เช่น เต้นช้าไปหรือเต้นเร็วไป ทำให้เกิดอาการเหนื่อยหอบ,
                     เจ็บแน่นหน้าอก อ่อนเพลียไม่มีแรง เป็นต้น

                                ข้อควรปฏิบัติ หากมียาอมใต้ลิ้นให้อม ครั้งละ ๑ เม็ด ถ้าไม่หายให้อมติดต่อกัน ๓ ครั้งห่างกัน
                     ครั้งละ ๕ นาที ถ้าไม่ดีขึ้นในระหว่างอมยาเม็ดที่ ๒ ควรนำส่งแพทย์ทันที หากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก

                     ควรนำส่งถึงมือแพทย์ภายในเวลาไม่เกิน ๒ ชั่วโมง

                            ง.  ยารักษาการเจ็บป่วยทั่วไป
                                ๑.   ยาลดไข้ ปวดหัว ตัวร้อน เช่น พาราเซตามอล (๕๐๐ มิลลิกรัม) ขนาดรับประทาน ๒ เม็ด

                     ทุก ๔ - ๖ ชั่วโมง หรือเมื่อมีอาการ
                                ๒.   ยาแก้ปวดข้อ กระดูก กล้ามเนื้อ เช่น อินโดซิด บรูเฟน ไอบรูเฟน นาโพซิน ขนาดรับประทาน
                     ตามขนาดที่กำหนดไว้ ไม่ควรรับประทานยา ตอนท้องว่างเพราะจะทำให้เป็นแผลในกระเพาะอาหารได้

                                ๓.   ยาแก้คลื่นไส้ อาเจียน เมารถ เช่น ดาบามิน (Dramamine) โมติเลียม (Motilium) เป็นต้น
                     รับประทานก่อนเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
                                ๔.   ยาแก้ท้องเสีย เช่น ผงเกลือแร่ (ขนาดรับประทานตามที่ระบุข้างซอง) หรือถ้าไม่มี

                     ใช้น้ำต้มสุก ๑ ขวดกลม (๗๕๐ ซีซี) หรือ ๓ แก้ว + เกลือ ๑/๒ ช้อนชา น้ำตาลทราย ๒ ช้อนโต๊ะ รับประทานภายใน
                     ๒๔ ชั่วโมง (ระวังการใช้ในผู้ที่เป็นโรคไต)
                                ๕.   ยาแก้ไข้หวัดลดน้ำมูก เช่น ทิฟฟี่ แอคติเฟต (Actifed) (ปัจจุบันควรระวังการใช้ในผู้สูงอายุ)

                     นอกจากนี้ยังมี ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ยาขับเสมหะ เป็นต้น
                     หมายเหตุ ถ้ายาเป็นแคปซูลไม่ควรแกะออกเพราะจะทำให้การออกฤทธิ์ของยาไม่ดีเท่าที่ควร

                                แนวทางปฏิบัติในการให้ยาในผู้สูงอายุ
                                ๑. ผู้ดูแลควรศึกษาถึง รูปร่าง ลักษณะและสรรพคุณของยาแต่ละชนิดที่รับประทานอยู่เป็นประจำ
                     และแนะนำผู้สูงอายุทราบด้วย (เวลาแพทย์ถามจำสรรพคุณยาไม่ได้ก็ยังบอกรูปร่างลักษณะของยาได้ เช่น

                     เม็ดกลมแบนขนาดเล็กสีส้ม รับประทานครั้งละครึ่งเม็ดตอนเช้า เป็นต้น)
                                ๒. เขียนขนาดและวิธีรับประทานตัวโตๆ ติดบนฉลากยา (กรณีที่ผู้สูงอายุยังอ่านหนังสือได้ดี)

                                ๓. อาจใส่กล่องแยกชั้นยา เช่น เช้า - กลางวัน - เย็น - ก่อนนอน (ก่อนหรือหลังอาหาร) เพราะเคย
                     มีผู้สูงอายุหลงลืมรับประทานยาซ้ำ ทำให้เกิดอันตรายมาก
                                ๔. สถานที่เก็บยา ควรให้ปลอดภัยและเก็บไว้ห่างจากมือเด็ก (เพราะเคยมีเด็กหยิบยา

                     ไปรับประทานโดยผู้ใหญ่ไม่ทราบซึ่งอันตรายมาก) บางชนิดต้องเก็บให้พ้นแสง (มักมีขวดสีชาหรือห่อฟรอยด์)
                     ยาฉีดเบาหวานและยาหยอดตา จะเก็บไว้บริเวณฝาตู้เย็น
                                ๕. ถ้าเป็นไปได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรหยิบยาให้รับประทานเองกับมือ วิธีนี้จะปลอดภัยที่สุด








                                                             ๑๗๓
   244   245   246   247   248   249   250   251   252   253   254