Page 244 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 244
คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)
การสื่อสารความต้องการได้เหมาะสม โดย
๑. ประเมินความสามารถของผู้ป่วยที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร
๒. หาวิธีการสื่อสารแทนคำพูด
๓. หมั่นไต่ถามความต้องการของผู้ป่วย
๔. ใช้คำพูดช้าๆ ชัดๆ ในการติดต่อสื่อสาร
๕. อธิบายให้ญาติเข้าใจถึงปัญหาและสาเหตุของการสื่อสารลำบาก
๖. จัดกริ่งหรือออดไว้ใกล้ตัวผู้ป่วย
พักผ่อนนอนหลับได้มากขึ้น โดย
๑. ให้ผู้ป่วยเป็นส่วนตัว ตามความเหมาะสม
๒. ดูแลด้านจิตสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการนอนหลับ
การนอน ผู้ป่วยอาจมีแบบแผนการนอนเปลี่ยนแปลงไป โดยไม่ค่อยนอนในตอนกลางคืนแต่จะนอนมาก
ในตอนกลางวัน ผู้ดูแลจึงควรจัดให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมในตอนกลางวันเช่น อ่านหนังสือให้ฟัง ดูโทรทัศน์
ออกกำลังกายและควรจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบเงียบในตอนกลางคืน บางครั้งการนอนคนเดียวอาจทำให้ผู้สูงอายุ/
พระสงฆ์อาพาธ เกิดความกลัวหรือรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นที่ต้องการของใครๆ หรือไม่สุขสบาย เนื่องจากต้องนอน
ท่าเดิมนานๆ หรือเกิดความเจ็บปวดเนื่องจากการยึดเกร็งของกล้ามเนื้อผู้ดูแลควรประเมินว่าการนอนไม่หลับ
เกิดจากสาเหตุใดเพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม
การขับถ่าย ผู้ป่วยส่วนมากมักมีปัญหากลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะคั่งค้างไม่สามารถถ่ายออกได้หมด
หรือไม่สามารถปัสสาวะออกได้เอง อาจจะต้องคาสายสวนปัสสาวะควรทำความสะอาดอวัยวะขับถ่ายโดย
การล้างน้ำและใช้ผ้านุ่มๆ หรือสำลีชุบน้ำเช็ดอย่างน้อยวันละ ๒ - ๓ ครั้ง ในรายที่มีปัสสาวะรด กะปริดกะปรอย
ผู้ดูแลควรกดบริเวณเหนือหัวเหน่าอย่างนุ่มนวล เพื่อให้มีปัสสาวะเหลือค้างในกระเพาะปัสสาวะน้อยที่สุด และ
ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะขับถ่ายทุกครั้ง ในรายที่ใช้แผ่นรองซับ หรือผ้าอ้อมสำเร็จรูปควรมีการเปลี่ยนบ่อยๆ
เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การเกิดเชื้อราและการเกิดแผลกดทับ ผู้ป่วยสูงอายุ
บางคนอาจมีปัญหาในเรื่องท้องผูก เนื่องจากไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายจึงควรเน้นให้มีกิจกรรม เช่น การเปลี่ยนท่า
การลุกนั่ง เดินหรือให้รับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้ เช่นผักต้มนิ่มๆ ส้ม มะละกอ ลูกพรุน ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่มีรสจัดให้น้ำอย่างเพียงพอ นอกจากนั้นควรมีการกระตุ้นหรือฝึกการขับถ่ายทั้งปัสสาวะและอุจจาระ
โดยการจัดให้ผู้ป่วยนั่งขณะถ่าย ปรับเวลาให้เหมาะสมและจัดสถานที่ให้เป็นสัดส่วน แต่ถ้าไม่ถ่ายอุจจาระเกิน
๒ วัน หรือการขับถ่ายเปลี่ยนแบบแผนไปจากเดิม (ก่อนป่วย) อาจให้ยาระบาย สวนหรือล้วงอุจจาระ
การดูแลผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะ
การสวนปัสสาวะหมายถึงการใส่ท่อยางหรือท่อพลาสติกขนาดเล็กผ่านทางรูเปิดของท่อปัสสาวะเข้าไปยัง
กระเพาะปัสสาวะเพื่อเป็นทางให้ปัสสาวะไหลออกมาวัตถุประสงค์ เพื่อลดการคั่งค้างของปัสสาวะในกระเพาะ
ปัสสาวะของผู้ป่วยและในรายที่ผู้ป่วยไม่สามารถขับถ่ายปัสสาวะได้เอง
ข้อบ่งชี้ในการใส่สายสวน
๑. ในภาวะที่มีการคั่งค้างของน้ำปัสสาวะ
๒. ภาวะที่มีการอุดตันของทางเดินปัสสาวะ
๓. เมื่อต้องการวัดปริมาณน้ำปัสสาวะ
๔. ในผู้ป่วยเรื้อรังที่ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้
๕. ก่อนและหลังผ่าตัด
๑๖๘