Page 144 - ระบบรับส่งต่อผู้ป่วย
P. 144
จ านวน 3 ข้อ ให้ผู้ให้ข้อมูลได้แสดงความคิดเห็น โดยมีผู้วิจัยเป็นผู้กระตุ้นให้แสดงความคิดเห็น มีผู้จดบันทึก 2 คน
(Note taker) และขออนุญาตจดบันทึกการสนทนา ใช้เวลาสนทนากลุ่มสหสาขาวิชาชีพ โรงพยาบาลสงขลา
ประมาณ 3 ชั่วโมง เมื่อสนทนาเสร็จ ผู้วิจัยสรุปใจความส าคัญในแต่ละข้อค าถาม แล้วให้ผู้ให้ข้อมูลตรวจสอบ
ี่
ความถูกต้อง หลังจากนัดถอดเทปแบบค าต่อค า ครั้งท 2 ในปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยจัดกลุ่มสนทนา
หน่วยงานอุบัติเหตุ - ฉุกเฉิน โรงพยาบาลชุมชนเครือข่าย 6 แห่ง และโรงพยาบาลเมือง ไม่รวมผู้วิจัย มีแนวค าถาม
จ านวน 3 ข้อ ให้ผู้ให้ข้อมูลได้แสดงความคิดเห็น โดยมีผู้วิจัยเป็นผู้กระตุ้นให้แสดงความคิดเห็น มีผู้จดบันทึก 2 คน
(Note taker) และขออนุญาตจดบันทึกการสนทนา ใช้เวลาสนทนากลุ่มสหสาขาวิชาชีพ โรงพยาบาลสงขลา
ประมาณ 4 ชั่วโมงเมื่อสนทนาเสร็จ ผู้วิจัยสรุปใจความส าคัญในแต่ละข้อค าถาม แล้วให้ผู้ให้ข้อมูลตรวจสอบความ
ถูกต้อง หลังจากนัดถอดเทปแบบค าต่อค า
ู
ิ
กำรวเครำะห์ข้อมล ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ตามขั้นตอน
้
ของ Crabtree, &Miller (1992) ได้แก่ การจัดแฟม การลงรหัสข้อมูล การจัดประเภทของข้อมูล การสร้าง
หมวดหมู่ การเชื่อมโยง หาความสัมพันธ์ของหมวดหมู่และการตรวจสอบความถูกต้อง
ระยะที่ 2 พฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วย Trauma fast track ที่เข้ารับบริการหน่วยงานอบัติเหตุ-
ุ
ั
ฉุกเฉิน โรงพยาบาลสงขลา ร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพ แบบไร้รอยต่อ
กลุ่มตัวอย่ำง เลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) ประกอบด้วย มี 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1
ทีมสหสาขาวิชาชีพในระบบ In-hospital ประกอบด้วยแพทย์/พยาบาลผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค Trauma fast
ิ
track ของโรงพยาบาลสงขลา ได้แก่ แพทย์/พยาบาล หัวหน้าหน่วยงานอุบัติเหตุ - ฉุกเฉน ศัลยกรรม วิสัญญี
ุ
ห้องผ่าตัด Lab X-ray CT จ านวน 9 คน กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วย แพทย์/พยาบาล หน่วยงานอบัติเหตุ-ฉุกเฉิน
ื่
โรงพยาบาลชุมชนเครือข่าย 6 แห่ง และโรงพยาบาลเมืองสงขลา จ านวน 7 คน เพอสืบค้น ศึกษา วิเคราะห์
ื่
สังเคราะห์เอกสารงานวิจัย แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย เพอจัดท ารูปแบบการดูแลผู้ป่วย
และกลุ่มที่ 3 คือ ผู้ป่วย Trauma fast track ที่มี PS score > 0.5 จ านวน 15 ราย (ระบบ In-hospital 10
รายและโรงพยาบาลชุมชนเครือข่าย 3ราย และ EMS จาก ER เมืองสงขลา 2 ราย)
เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย
1. แนวทางค าถามในการสนทนากลุ่ม ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการจากการทบทวนเอกสารและงานวิจัย
ที่เกี่ยวข้อง มีจ านวน 4 ข้อ ได้แก 1) ด้านการ Assessment 2) การ Investigate 3) การ Communication
่
ทีมสหสาขาวิชาชีพ และ 4) การระบุผู้รับผิดชอบบทบาทหน้าที่หลักทุกจุดบริการให้ผู้ให้ข้อมูลได้แสดงความ
คิดเห็นในการจัดท ารูปแบบการดูแลผู้ป่วย
2. เครื่องบันทึกเสียงและสมุดจดบันทึกส าหรับจดข้อมูล
ื
กำรตรวจสอบคุณภำพเครื่องมอ
ผู้วิจัยน าแนวค าถามที่สร้างขึ้นไปตรวจสอบคุณภาพ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จ านวน 3 คน ประกอบด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัย 1คน แพทย์/พยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วย 2 คน จากนั้นน าไปทดลองใช้
ุ
(Try out) กับทีมสหสาขาวิชาชีพที่หน่วยงานอบัติเหตุ - ฉุกเฉินโรงพยาบาลสงขลา จ านวน 5 คน และโรงพยาบาล
ชุมชนเครือข่าย 6 แห่ง จ านวน 6 คน และโรงพยาบาลเมืองสงขลา 1 คน เพอตรวจสอบความชัดเจน
ื่
และความเข้าใจตรงกันในประเด็นค าถามก่อนน าไปใช้จริงได้ค่า IOC เท่ากับ .86
กำรเก็บรวบรวมข้อมล
ู
ผู้วิจัยด าเนินการเก็บรวบรวมขอมูลเชิงคุณภาพด้วย การสนทนากลุ่ม จัดสนทนากลุ่ม (Focus group)
้
คณะท างาน จ านวน 2 ครั้ง ครั้งที่1 ในระบบ In-hospital ช่วงเดือนต้นเดือนพฤศจิกายน 2565 มีแนวค าถาม
จ านวน 4 ข้อ ดังนี้ 1) ด้านการ Assessment 2) การ Investigate 3) การ Communication ทีมสหสาขา
วิชาชีพและ 4) การระบุผู้รับผิดชอบบทบาทหน้าที่หลักทุกจุดบริการให้ผู้ให้ข้อมูลได้แสดงความคิดเห็น
ผลงานวิชาการ Smart Referral System for “One Province One ER” 2023 140