Page 107 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 107
B37
มาตรฐาน และค่าแจกแจงที (t-test dependent) แบบไม่เป็นอิสะต่อกัน และกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ P≤0.05 งานวิจัยครั้งนี้ได้รับการพิจารณาจริยธรรมในมนุษย์จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช
เลขที่ NSTPH 052/2565 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2565
ผลการศึกษา
พบว่า คะแนนแบบวัดการตัดสินใจการรับบริการการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยชุดแบบฟอร์ม
และชุดอุปกรณ์การตรวจด้วยตนเอง HPV Self-Sampling อยู่ในระดับดีมาก (89.92%) คะแนนแบบวัดความ
พึงพอใจก่อนและหลังเข้าร่วมโปรแกรมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอยู่ในระดับดีมาก ด้วยเครื่องมือชุด
เดียวกัน ระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ - เมษายน 2566 สถิติที่ใช้ในการวิจัย
ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าแจกแจงที (t-test dependent) แบบไม่
เป็นอิสะต่อกัน และกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ P≤0.05
การอภิปรายผล
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ พบว่า การเสริมสร้างพลังอำนาจของคนในครอบครัวร่วมการใช้กระบวนการกลุ่ม
ส่งผลการต่อรับรู้การตระหนักและเห็นความสำคัญของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นอย่างมากทำให้
สตรีกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวมีความรู้และความเข้าใจยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในเชิงบวก positive behavior
ซึ่งทำให้งานวิจัยครั้งนี้ประสบความสำเร็จและสตรีกลุ่มเสี่ยงยินดีที่จะตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุกๆ 5 ปี อย่าง
สม่ำเสมอ
สรุปและข้อเสนอแนะ
การเสริมสร้างพลังอำนาจของคนในครอบครัวมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจต่อการตรวจคัดกรองมะเร็ง
ปากมดลูก ทั้งนี้ การจัดระบบบริการของสาธารณสุขที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและความ
ต้องการของชุมชน ซึ่งสตรีพื้นที่ตำบลพรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในวัยทำงาน โดยการศึกษา
ในครั้งนี้ได้จัดบริการการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่สามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้านแบบ One Stop Service
และการเลือกใช้อุปกรณ์แบบ HPV Self-Sampling ที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่เจ็บไม่อายทำได้เองที่บ้าน รู้ผลไว
ใน 14 วัน ทำให้การส่งเสริมสุขภาพการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและการป้องกันมะเร็งปากมดลุกระยะลุกลาม
ได้ในระดับ Primary Prevention ระดับชุมชนประสบความสำเร็จ อีกทั้งการลงพื้นที่เชิงรุกของเจ้าหน้าที่
สาธารณสุขร่วมกับอาสาสมัครครอบครัวและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นที่ให้ความ
ร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ รณรงค์เคาะประตูบ้าน ทำให้สตรีกลุ่มเสี่ยงได้รับบริการได้มากที่สุดและ
เพื่อให้การศึกษาชัดเจนควรมีการขยายรูปแบบนี้นำไปใช้กับพื้นที่ข้างเคียงเพื่อวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ที่มากขึ้น