Page 111 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 111

C3


                       Fast Pass ลดรอคอย ลดแออัด ลดรอยต่อเพื่อการรักษาจำเพาะของผู้ป่วยฉุกเฉิน


                                           แพทย์หญิงกฤตยา ณ เพ็ชรวิจารณ์, แพทย์หญิงณิชกานต์ บุญยก และคณะผู้วิจัย

                                            โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตสุขภาพที่ 11
                                                                                               ประเภท วิชาการ


                  ความสำคัญของปัญหาวิจัย
                         ปัญหาผู้ป่วยแออัดที่มารอรับบริการที่ห้องฉุกเฉิน มีมายาวนานจนกระทั่งปัจจุบัน ส่งผลต่อความเสี่ยง
                  ทุกมิติทั้งของผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ และระบบบริการ ผู้ป่วยใช้เวลารอตรวจที่ห้องฉุกเฉินนานจนอาจมี
                  ภาวะแทรกซ้อนหรือเสียชีวิตตามมา ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานภายใต้สถานการณ์ ER Overcrowding
                  ต้องใช้เวลาที่จำกัดเพื่อให้ทันกับการดูแลผู้ป่วยที่มารับบริการทั้งหมด จนอาจทำให้ความแม่นยำ ถูกต้องในการ

                  ประเมินและดูแลผู้ป่วยลดลง เกิดการวินิจฉัยและรักษาคลาดเคลื่อน ผู้ป่วยมีความเสี่ยง และบุคลากรหน้างาน
                  เกิดภาวะเครียด อ่อนล้าและหมดไฟในการทำงาน ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ระบบโรงพยาบาลและปัญหา
                  การฟ้องร้องต่าง ๆ ตามมา

                         ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช มีปัญหาข้างต้นมายาวนาน จึงพยายามสร้างกระบวนการ
                  ดูแลผู้ป่วย “ระบบ Fast Pass” ซึ่งเป็นกระบวนการตกลงร่วมกันระหว่างสหวิชาชีพทุกแผนกในโรงพยาบาล
                  และโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่งที่ส่งต่อผู้ป่วยมา (Refer) และได้รับการวินิจฉัยจำเพาะจาก
                  ประวัติและทรัพยากรการส่งตรวจจากรพ.ต้นทาง เพื่อลดระยะเวลาการรอตรวจที่ห้องฉุกเฉิน ให้ได้รับการนอน

                  โรงพยาบาล ภายในเวลา 15 นาทีเพื่อรักษาจำเพาะในแต่ละแผนก ลดภาวะแทรกซ้อนและการตาย เป็นแนวทาง
                  ประกาศใช้ตั้งแต่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566

                  วัตถุประสงค์การศึกษา
                         1. เพื่อศึกษา ระบบ Fast Pass ช่วยลดระยะเวลารอคอยของผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินได้หรือไม่
                         2. เพื่อศึกษา ระบบ Fast Pass ช่วยลดความแออัดของผู้ป่วยที่มารับบริการในห้องฉุกเฉินได้หรือไม่

                  วิธีการศึกษา

                         Observational retrospective study ผู้ป่วยที่มาด้วยระบบการส่งต่อ (Refer) และเข้าเกณฑ์
                  ตามแนวทางระบบ Fast Pass ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2566 – 31 มกราคม 2567 โดยเก็บรวบรวมข้อมูล
                  จากแบบบันทึกเวชระเบียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ จำนวน ร้อยละ และค่าเฉลี่ย

                  ผลการศึกษา

                         ผู้ป่วยทั้งหมดที่รับบริการห้องฉุกเฉินในช่วงเวลาที่ศึกษา 17,593 คน มาด้วยระบบส่งต่อ 4,415 คน
                  มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ Fast Pass ทั้งหมด 122 คน (2.7%) ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (51.6%) ช่วงอายุมากกว่า 15 ปี

                  (87.7%) มาในช่วงเวรบ่ายและเช้าในเวลาราชการ (43.5%,38.5%) ระดับความรุนแรง Emergency (53.3%)
                  รองลงมาคือ Urgency (39.3%) แผนกที่รับผู้ป่วย Fast pass มากที่สุด คือ ศัลยกรรมกระดูกและข้อ (30.4%)
                  รองลงมาคือ จิตเวช (16.4%) (ตารางที่ 1) ระยะเวลารอคอยที่ห้องฉุกเฉิน เฉลี่ย 8 นาที (ตารางที่ 2)
   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116