Page 185 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 185
E25
เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แทบเลต เป็นต้น ไม่สามารถควบคุมระยะเวลาการใช้ได้ ระยะเวลา
ในการเล่นโทรศัพท์มือถือในวันหยุดสุดสัปดาห์ 2 - 5 ชั่วโมง 2.3 พยาบาลมีการประเมินตาม CPG ส่งต่อการ
รักษาและปรับพฤติกรรมให้การรักษาและพยาบาล และเยี่ยมบ้านโดยระบบการช่วยเหลือของโรงเรียน ร่วมกับ
ครูประจำชั้นหรือครูระบบช่วยเหลือ ภายหลังจากพบจิตแพทย์อย่างต่อเนื่องที่บ้าน
อภิปรายผล
1. การศึกษาความเสี่ยงโรคจิตเวชเด็ก เพื่อทบทวนกระบวนการคัดกรองเพื่อการดูแลช่วยเหลือเด็กวัยเรียน
เชิงรุก สอดคล้องกับการศึกษาและการทบทวนวรรณกรรมที่ใช้แบบประเมิน SNAP IV พบวามเสี่ยงโรคสมาธิ
สั้นมากกว่าร้อยละ 80 แสดงให้เห็นว่าในอำเภอสรรพยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 2.เพื่อเป็นแนวทางในการคัด
ก ร อ ง
ปรับพฤติกรรม ส่งต่อเพื่อการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ พบว่าปัจจัยด้านตัวเด็ก ครอบครัว และ
สิ่งแวดล้อมเด็กวัยเรียนมีความเสี่ยงต่อโรคจิตเวชเด็ก และปัญหาด้านการเรียน ไม่สนใจเรียน อ่าน เขียนไม่ได้
มีพฤติกรรมก้าวร้าว ซุกซน แกล้งเพื่อน ทั้งนี้พบเด็กที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่มีความเสี่ยงโรคสมาธิสั้นมากกว่า
เด็กที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ตามการรับรู้ของผู้ปกครอง
สรุปและข้อเสนอแนะ :
ผลการศึกษาพบว่า เด็กในโรงเรียนมีความเสี่ยงโรคสมาธิสั้นพบมากที่สุด บุคลากรด้านสาธารณสุข ครู
และผู้ที่เกี่ยวข้องควรเน้นการคัดกรองความเสี่ยงโรคทางจิตเวชเด็กก่อนอายุ 6 ปี เพื่อค้นหาในระยะแรกๆ
เข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรม ทำการปรับพฤติกรรมเด็ก และส่งต่อเด็กเข้ารับการตรวจประเมินซ้ำจากแพทย์
ผู้เชี่ยวชาญตามความเหมาะสม
ประโยชน์ที่ได้รับ
ด้านบริหาร
กำหนดนโยบาย สนับสนุนให้มีการสร้าง CPG การดูแลช่วยเหลือเด็กร่วมกัน และระบบการติดตาม
อย่างต่อเนื่อง
ด้านบริการ
พัฒนารูปแบบระบบการคัดกรอง ช่วยเหลือ และส่งต่อได้เข้าถึงบริการอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านวิชาการ
พัฒนางานประจำและวิจัย นำไปใช้พัฒนางานอย่างมีคุณภาพ