Page 427 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 427
L4
ประสิทธิผลของการรักษาสตรีวัยหมดประจำเดือนด้วยยาสมุนไพรตำรับใน
คลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลพระปกเกล้า
นางสาวศรัณณัฏฐ์ แสนเสนาะ
โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี เขตสุขภาพที่ 6
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
ภาวะวัยหมดประจำเดือนของสตรีนั้นเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการตามวัยที่มนุษย์เพศหญิงแทบทุกคน
ต้องประสบกับปัญหาเมื่อถึงช่วงวัยหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นผลมาจากการทำงานของรังไข่ที่เสื่อมสภาพ
หยุดผลิตไข่ การผลิตฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเอสโตรเจนในร่างกายลดลง โดยจะเกิดในผู้หญิงช่วงอายุราว 45-55 ปี
อาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ ได้แก่ ประจำเดือนขาดหายหรือค่อย ๆ น้อยลงและหมดไปในท้ายที่สุด อาการร้อน
วูบวาบ มีเหงื่อออกในตอนกลางคืน รู้สึกเบื่อ เหนื่อย ใจสั่น หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า ช่องคลอดแห้ง คัน อักเสบ
อาจมีเลือดออก และบางรายมีอาการเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ จนทำให้ความต้องการทางเพศลดลงได้ บางราย
อาจมีอาการปัสสาวะขัด ปัสสาวะลำบากและบ่อย อาการเหล่านี้แม้ไม่เป็นอันตรายโดยตรงต่อสุขภาพ แต่ถ้าเกิดขึ้น
อย่างรุนแรงจะมีผลต่อการดำเนินชีวิต
การแพทย์แผนปัจจุบันบรรเทาอาการของสตรีวัยหมดประจำเดือน โดยการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทน
แต่การใช้ฮอร์โมนทดแทนนั้นจำเป็นต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของประโยชน์ที่จะได้รับและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
จากการใช้ฮอร์โมนในสตรีแต่ละรายไป สำหรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้หลังจากการได้รับฮอร์โมนดังกล่าวในระยะ
เวลานานอาจก่อให้เกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งเต้านม และภาวะลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดดำ ปัจจุบันคลินิก
แพทย์แผนไทย โรงพยาบาลพระปกเกล้าได้มีการรักษาอาการโดยการรับประทานยาสมุนไพรตำรับลูกกลอน
“พระขรรค์ชัย” ซึ่งพบว่าอาการของสตรีวัยหมดประจำเดือนดีขึ้น
วัตถุประสงค์การศึกษา
เพื่อศึกษาประสิทธิผลย้อนหลังของการรักษาสตรีวัยหมดประจำเดือนด้วยยาสมุนไพรตำรับในคลินิก
แพทย์แผนไทย โรงพยาบาลพระปกเกล้า โดยเปรียบเทียบอาการทางคลินิกและคะแนนของภาวะขาดฮอร์โมน
เอสโตรเจนตามแบบประเมินวัยทองของสตรีวัยหมดประจำเดือน ก่อนและหลังรับประทานยาสมุนไพรตำรับ 3 เดือน
วิธีการศึกษา
เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบย้อนหลัง (Retrospective descriptive study design) จากเวชระเบียน
ผู้ป่วยสตรีวัยหมดประจำเดือนที่เข้ามารับการรักษาที่คลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลพระปกเกล้า ระหว่าง
วันที่ 1 มกราคม – 30 กันยายน 2566 ใช้วิธีคัดเลือกผู้ป่วยแบบเจาะจง (Purposive sampling) ตามเกณฑ์
การคัดเข้าออก พบว่ามีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 26 ราย ทุกรายได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แผนปัจจุบันว่ามีอาการ
ภาวะวัยทอง โดยทุกรายรับประทานยาสมุนไพรตำรับพระขรรค์ชัยต่อเนื่อง 3 เดือน ขนาดรับประทาน ครั้งละ
2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้าและก่อนนอน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ เวชระเบียนและแบบประเมินภาวะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน
ตามแบบประเมินอาการวัยทองของสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กระทรวงสาธารณสุขโดยเปรียบเทียบก่อน
และหลังรับประทานยาสมุนไพรตำรับ 3 เดือน ทุกรายได้ควบคุมปัจจัยที่เกี่ยวข้องเหมือนกัน ได้แก่ การรับประทาน
ยาสม่ำเสมอและการปรับพฤติกรรมด้านจิตใจโดยแนะนำฝึกสมาธิบำบัด วิเคราะห์และแปลผลข้อมูล โดยหา
ค่าจำนวน ความถี่ ร้อยละ เปรียบเทียบโดยใช้สถิติ paired-t test และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา (Descriptive
Analysis) ร่วมด้วย