Page 434 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 434
L11
การพัฒนารูปแบบการจัดบริการด้านการแพทย์แผนไทยในคลินิก NCDs
โรงพยาบาลชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์
นายเอกพันธ์ นครขวาง, นางสาวพิชญาภา อินทร์ประสิทธิ์ และนางสาวกมลทิพย์ ชัยสุวรรณ
โรงพยาบาลชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เขตสุขภาพที่ 3
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
สถานการณ์ผู้โรคเบาหวานและความดันของอำเภอชุมแสงพบว่าจำนวนผู้ป่วยที่ต้องกินยาของทั้ง 2
โรคนี้ในปีงบประมาณ 2566 พบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานมีจำนวน 4,010 ราย ผู้ป่วยโรคความดันมีจำนวน
10,256 ราย แนวโน้มย้อนหลัง 3 ปี พบว่าจำนวนผู้ป่วยในพื้นที่นั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจากที่ผู้ป่วยโรคเรื่องรัง
นั้นต้องกินยาเยอะทำให้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยโรคไตนั้นเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันในปีงบประมาณ 2566
มีผู้ป่วยโรคไตจำนวน 1,637 ราย เป็นโรคไตระยะที่ 1 จำนวน 134 ราย เป็นโรคไตระยะที่ 2 จำนวน 521 ราย
เป็นโรคไตระยะที่ 3 จำนวน 809 ราย เป็นโรคไตระยะที่ 4 จำนวน 136 ราย เป็นโรคไตระยะที่ 5 จำนวน 37 ราย
จากสถิติพบว่าผู้ป่วยมีจำนวนที่มากและใกล้เคียงกับปีก่อน ๆ โดยถ้าไม่มีการจัดการที่ดีอาจทำให้แนวโน้ม
ของผู้ป่วยโรคไตระยะที่ 2 และ 3 จะกลายเป็นผู้ป่วยระยะที่ 4 นั้นจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยที่เป็นโรคไตระยะ
2-3 มีจำนวนที่มาก ซึ่งสาเหตุที่พบคือการใช้ชีวิตของผู้ป่วยและการกินยาที่มากขึ้นทั้งยาโรคประจำตัว
และยาแก้ปวด ดังนั้นงานแพทย์แผนไทยจึงได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการรักษาแบบบูรณาการในคลินิกโรคเรื้อรัง
โดยเน้นการให้ความรู้การยืดเหยียดกล้ามเนื้อในคลินิก NCDs และการใช้นวัตกรรมของยาลดปวดที่ใช้ภายนอก
เพื่อเป็นทางเลือกในการจ่ายยาของแพทย์ ลดการกินยาแก้ปวดของผู้ป่วย อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน
เนื่องจากการผลิตยาพอกลดปวด และน้ำมันลดปวดกล้ามเนื้อปาล์มไมร่า นั้นได้ซื้อวัตถุดิบที่มาทำการผลิต
จากท้องถิ่นในอำเภอชุมแสง
วัตถุประสงค์การศึกษา
เพื่อศึกษาผลของรูปแบบการจัดบริการด้านการแพทย์แผนไทยในคลินิก NCDs
วิธีการศึกษา
เป็นการศึกษาเชิงปฏิบัติการโดยเก็บข้อมูลผลการใช้นวัตกรรม ยาพอกลดปวด น้ำมันนวดลดปวด
ปาล์มไมร่า การสอนสุขศึกษาเพื่อนำมาพัฒนารูปแบบระบบการบริหารจัดการในกิจกรรมให้บริการ
ด้านการแพทย์แผนไทยในคลินิก NCDs ของโรงพยาบาลชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ มีลำดับการศึกษาดังนี้
ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลปัญหา สถานการณ์ โรคแทรกซ้อนและปัญหาของคลินิก NCDs วางแผน
การดำเนินการที่แพทย์แผนไทยสามารถเข้าไปมีบทบาทช่วยเหลือและรักษาผู้ป่วยได้
ระยะที่ 2 เก็บข้อมูลและศึกษาผลการใช้นวัตกรรมยาพอกลดปวด และยาทาลดปวดปาล์มไมร่า
ในกลุ่มผู้ป่วย NCDs ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อเข่า
ระยะที่ 3 นำเสนอรูปแบบการจัดบริการแพทย์แผนไทยกับองค์กรแพทย์และพยาบาลให้ทราบถึง
ผลการศึกษา เกณฑ์การจ่ายยาทั้ง 2 ชนิด ในคลินิกเบาหวานและความดัน กับคลินิกโรคไตและเก็บข้อมูล
ระยะที่ 4 นำข้อมูลมาเสนอผู้บริหารเพื่อกำหนดเป็นรูปแบบการรักษาในคลินิก NCDs เป็นรูปแบบ
การใช้ยาภายนอกและการส่งต่อผู้ป่วยในกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ และลดปวดข้อเข่าจากโรคเข่าเสื่อม
ผลการศึกษา
จากการวิเคราะห์ปัญหาผู้ป่วยในคลินิก NCDs ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ และปวดเข่าจากโรคเข่าเสื่อม
ทางงานแพทย์แผนไทยจึงได้เก็บข้อมูลของนวัตกรรมและยาใช้ภายนอกได้ผลดังนี้