Page 440 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 440

L17

                   การศึกษาประสิทธิผลของยาพอกดูดพิษในการรักษากลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบน
                                  โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จังหวัดสมุทรสงคราม

                          (The effectiveness of Ya Pox Dod Pit for Myofascial Pain Syndrome
                           Somdetphraphutthaloetla Hospital,Samut Songkhram Province)

                                                                   ปฏิญา สายรัตน์, ณัฐฐาน์ เกียรติธำรงคุณ และคณะ

                                                โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จังหวัดสมุทรสงคราม เขตสุขภาพที่ 5
                                                                                               ประเภท วิชาการ


                  ความสำคัญของปัญหาวิจัย
                         กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ได้จัดบริการ
                  ด้านการแพทย์แผนไทยครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ
                  ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จากสถิติผู้ที่มารับบริการส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรัง
                  เกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและโครงร่าง ปี พ.ศ. 2562 มีจำนวน 13,530 ครั้ง (กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและ

                  การแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า, 2563) และพบว่าผู้ป่วยกลุ่มโรคของอาการปวด
                  กล้ามเนื้อที่วินิจฉัยโดยแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือแพทย์แผนไทย ด้วยชื่อโรคลมปลายปัตฆาตสัญญาณ 4
                  หลังที่มีอาการ ปวดตึง คอ กล้ามเนื้อบ่าและสะบัก อาจพบอาการปวด ร้าว ชา แขนด้านนอกและนิ้วมือ หรือ

                  ลมปลายปัตฆาตสัญญาณ 5 ที่มีอาการมึนงง เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา (มูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริม
                  การแพทย์ไทยเดิมฯ, 2548) ที่มารับบริการรักษาในปี พ.ศ. 2563 จำนวน 3,780 ครั้ง และปี พ.ศ. 2564
                  จำนวน 4,350 ครั้ง ซึ่งมีจำนวนสูงขึ้นถึงร้อยละ 7 (งานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาล
                  สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า, 2565) การดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบนเป็นการรักษา
                  ตามอาการเพื่อบรรเทาอาการปวด การรักษามักประกอบด้วยการใช้ยาแผนปัจจุบัน แม้จะได้ผลดีในแง่ของการบรรเทา

                  อาการปวดและการอักเสบแต่มักมีอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา เช่น แผลในกระเพาะอาหาร
                  หรืออาจมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร และต้องรักษาอย่างต่อเนื่องจึงทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย เกิดภาระค่าใช้จ่าย
                  ที่เพิ่มสูงขึ้น การดูแลแบบการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน จึงเป็นอีกทางเลือกในการดูแลสุขภาพ

                  วัตถุประสงค์การศึกษา
                         1. เพื่อศึกษาประสิทธิผลของยาพอกดูดพิษในการรักษากลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบน

                         2. เพื่อศึกษาอาการไม่พึงประสงค์ของยาพอกดูดพิษในการรักษากลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบน

                  วิธีการศึกษา
                         1. จัดทำโครงร่างการวิจัยเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาการศึกษาวิจัยในคนเพื่อ พิจารณาอนุมัติ
                  หลังจากได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการฯ จึงดำเนินการทดลอง การวิจัยครั้งนี้ได้รับการพิจารณา และรับรอง
                  จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ จากโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า เลขที่ COA NO.62 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565

                         2. คัดเลือกอาสาสมัครแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เข้าสู่การวิจัยตามเกณฑ์ที่กำหนดจำนวน 32 คน
                         3. การบริหารยา: อาสาสมัครจะได้การรักษาด้วยแผ่นแปะยาพอกดูดพิษบริเวณกล้ามเนื้อหลังส่วนบน
                  ครั้งละ 1 แผ่น เป็นเวลา 30 นาที วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน

                         4. เปรียบเทียบข้อมูลก่อนและหลังการทดลอง โดยประเมินระดับอาการปวด (Visual Analog Scale)
                  อาการไม่พึงประสงค์ และประเมินองศาการเคลื่อนไหว Cervical Range of Motion (CROM)
   435   436   437   438   439   440   441   442   443   444   445