Page 500 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 500

N8
                                ผลการจัดการเชื้อดื้อยาแบบบูรณาการในโรงพยาบาลพนัสนิคม


                                   แพทย์หญิงปิยรัตน์  พงษ์หัสบรรณ์  นางนาตยา  วงศ์สิริวิทยา  นางสาวธนาภา  ธาตุอินทร์
                                                               เภสัชกรหญิงณีรชา  คมขำ  และนางสาววัชญา  ดาแดง

                                                                  โรงพยาบาลพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เขตสุขภาพที่ 6
                                                                                                ประเภท วิชาการ


                  ความสำคัญของปัญหาวิจัย
                         เชื้อดื้อยาเป็นปัญหาที่สำคัญทั่วโลกและในประเทศไทย  กระทรวงสาธารณสุขจึงให้ความสำคัญและ

                  ขับเคลื่อน service plan RDU-AMR ให้มีการดำเนินการในการลดการติดเชื้อดื้อยา ซึ่งในปัจจุบันพบผู้ป่วย
                  ติดเชื้อดื้อยาชนิดรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และพบว่ามีการติดเชื้อดื้อยาจากชุมชนสูงขึ้น เมื่อเกิดการแพร่กระจาย
                  เชื้อดื้อยาส่งผลให้ผู้ป่วยต้องนอนโรงรพ.นานขึ้น เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูงขึ้น และทำให้เสียชีวิตได้

                  ทั่วโลกมีการเสียชีวิตจากการติดเชื้อดื้อยาปีละ 700,000 คน และหากไม่เร่งแก้ไขปัญหา คาดว่าใน พ.ศ. 2593
                  การเสียชีวิตจากเชื้อดื้อยาจะสูงถึง 10 ล้านคน สำหรับประเทศไทย การศึกษาเบื้องต้นพบว่ามีการเสียชีวิตจาก
                  เชื้อดื้อยาประมาณปีละ 38,000 ราย คิดเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยรวมสูงถึง 4.2 หมื่นล้านบาท จาก
                  การเฝ้าระวังการติดเชื้อดื้อยาโรงพยาบาลพนัสนิคม พบอัตราการติดเชื้อดื้อยาในปี 2563-2565 คิดเป็น
                  0.25,0.16 0.17 ต่อ1000 วันนอนตามลำดับ จากการศึกษาข้อมูลผู้ป่วยพิษเหตุติดเชื้อของชุมชนของ

                  โรงพยาบาลพนัสนิคม มีอัตราการติดเชื้อดื้อยา (MDR/ESBL/CRE) ร้อยละ 20.5 (ข้อมูลปี 2563-2564) และ
                  จากข้อมูล service plan RDU-AMR ปี 2564-2565 พบว่า โรงพยาบาลพนัสนิคมพบเชื้อดื้อยาในกระแสเลือด
                  เพิ่มมากขึ้น จาก ร้อยละ 58.38 เป็น ร้อยละ 61.81 ซึ่งส่งผลให้แพทย์ตัดสินใจใช้ยาต้านจุลชีพที่ออกฤทธิ์

                  แบบกว้างมากขึ้น จากการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้ยาต้านจุลชีพที่ต้องใช้ใบ DUE รูปแบบ defined daily
                  dose 2563-2565 แนวโน้มสูงขึ้น 100.91, 97.75 และ 182.74 ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 4,043,384 บาท
                  4,958,283 บาท และ 6,302,461 บาท ปัญหาเชื้อดื้อยาที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นจากการสั่งใช้อย่าง
                  ไม่สมเหตุสมผลตามข้อบ่งชี้ และให้ระยะเวลานาน จากปัญหาดังกล่าว รพ.พนัสนิคมได้ประเมินตนเองโดย

                  ใช้แบบประเมินการจัดการ AMR อย่างบูรณาการ (integrated AMR management ; IAM) ใน ปี 64 ผลการ
                  ประเมินได้ระดับ พื้นฐาน (BASIC)= 208คะแนน จากการวิเคราะห์พบส่วนขาดในการพัฒนาในหลายประเด็น
                  เช่น ความเหมาะสมในการใช้ยาปฏิชีวนะ การเฝ้าระวังการระบาดที่รวดเร็วการนำข้อมูลเชื้อดื้อยา
                  ในโรงพยาบาลมาวิเคราะห์และดูแนวโน้มการระบาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา การปฏิบัติตาม

                  แนวทางการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา ทีม IC เล็งเห็นความสำคัญจึงได้พัฒนาการจัดการเชื้อดื้อยาแบบ
                  บูรณาการ เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยและลดการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล ส่งเสริมการใช้ยาต้านจุลชีพ
                  อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายยาต้านจุลชีพลดลง


                  ตัวชี้วัด
                         1.  ผลการประเมินการจัดการ AMR อย่างบูรณาการ ได้ระดับการดำเนินการขั้นสูง (advance)
                         2.  ร้อยละการปฏิบัติตาม Bundle MDR เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปี 2565 ร้อยละ 10

                         3.  ปริมาณและมูลค่าการใช้ยาต้านจุลชีพลดลงร้อยละ 10
                  วัตถุประสงค์การศึกษา

                         1.  เพื่อพัฒนากลไกลการจัดการ AMR อย่างบูรณาการ
                         2.  เพื่อพัฒนาระบบการเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพจากห้องปฏิบัติการ
   495   496   497   498   499   500   501   502   503   504   505