Page 503 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 503
N11
กระบวนการส่งเสริมการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลในภาคการเกษตร จังหวัดอำนาจเจริญ
เภสัชกรหญิงจันทร์จรีย์ ดอกบัว, เภสัชกรหญิงจิราวรรณ ชาภักดี, เภสัชกรหญิงสุธิดา ปาบุตร
โรงพยาบาลปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ เขตสุขภาพที่ 10
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
สถานการณ์สินค้าเกษตรปี 2566 ของสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร พบว่าสินค้าการเกษตรในระดับ
โลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อกำหนดตามพรบ.มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 เพื่อให้เป็นไป
ตามมาตรฐาน จึงทำให้มีการใช้ยาเพื่อบำบัดรักษาโรคในสัตว์ เพื่อเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของสัตว์ และเป็นการ
ทำให้สัตว์ปราศจากโรคก่อนส่งผลิตผล การบำบัดรักษาโรคในสัตว์จำเป็นต้องใช้ยาต่าง ๆ ในการรักษา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาปฏิชีวนะที่มักใช้เพื่อการรักษาโรคระบาด ป้องกันโรคระบาด และเพื่อเร่งการเจริญเติบโต
การใช้ยาปฏิชีวนะพบว่ามีการใช้ก่อนจะพบโรค การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างกว้างขวางและใช้อย่างไม่เหมาะสม
เช่นนี้จะก่อให้เกิดเชื้อดื้อยาในสัตว์เพิ่มมากขึ้นและยังมีความเสี่ยงที่จะแพร่สู่สิ่งแวดล้อมและมนุษย์อีกด้วย
จากแผนยุทธศาสตร์การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทยพ.ศ. 2560-2564 “ลดการใช้ยาต้านจุลชีพใน
สัตว์ ร้อยละ 30” จึงจำเป็นต้องส่งเสริมการใช้ยาปฏิชีวนะด้วยความรับผิดชอบในการเลี้ยงสัตว์ เลือกใช้อย่าง
ชาญฉลาดและสมเหตุผล ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแก้ไขปัญหาเชื้อดื้อยา โดยการกำหนดแนวทาง
ปฏิบัติอย่างถูกต้อง เหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญ อาศัยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายเพื่อสร้างหลักประกันด้าน
สุขภาพและสวัสดิภาพของสัตว์เลี้ยง ลดยาตกค้างในเนื้อสัตว์และสิ่งแวดล้อมอันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของ
ผู้บริโภคต่อไป จากโครงการสำรวจสถานการณ์การใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงสัตว์ เขตอำเภอปทุมราชวงศา
พบว่าเกษตรกรใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยป้องกันโรคและเร่งการเจริญเติบโต เมื่อสัตว์เจ็บป่วย
เกษตรกรจะไปซื้อยาจากร้านขายยาแผนปัจจุบันเป็นส่วนใหญ่ ร้อยละ 75 โดยยาปฏิชีวนะที่เรียกหาจะเป็น
กลุ่มยา Penicillin นอกจากนี้ยังพบการใช้ยา Colistin powder โรยในบ่อกุ้งซึ่งเป็นยาที่จำกัดการใช้ในทาง
ปศุสัตว์และยังพบยา Amoxicillin powder เป็นยาที่ไม่มีทะเบียนที่ได้มาจากเซลล์ขายยาและร้านขายยาสัตว์
และจากการสำรวจพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะ พบว่าเกษตรกรเลือกใช้ยาโดยไม่ได้ปรึกษาปศุสัตว์/สัตวแพทย์
ก่อนใช้ทุกครั้งส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวินิจฉัยโรคและใช้ยาเกินขนาด ในด้านผู้ประกอบการ
ร้านขายยาสัตว์ส่วนใหญ่ไม่สามารถให้คำแนะนำการใช้ยาได้ตามหลักวิชาการส่วนใหญ่จะเป็นการแนะนำการใช้
ตามฉลากยาหรือไม่ได้แนะนำการใช้ใดๆเลย นอกจากนี้ยังพบว่าสิ่งปฏิกูลที่เกิดขึ้นหลังจากการใช้ยาปฏิชีวนะ
ในสัตว์ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อมซึ่งมีโอกาสปนเปื้อนมาสู่คนได้ ดังนั้นควรมีการศึกษาสถานการณ์และจัดทำ
แนวทางการควบคุมกำกับการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลในภาคการเกษตรเพื่อให้เกิดการใช้ยาอย่าง
สมเหตุผลต่อไป
วัตถุประสงค์การศึกษา: เพื่อศึกษาสถานการณ์การจำหน่ายหรือการกระจายยาปฏิชีวนะสำหรับสัตว์และ
พัฒนาแนวทางกำกับการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล จังหวัดอำนาจเจริญ
วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการ กลุ่มประชากรที่ศึกษา ได้แก่ ร้านขายยาสัตว์ ร้านขายของ
การเกษตร ร้านขายอาหารสัตว์ จังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 53 แห่ง ซึ่งแหล่งข้อมูลกลุ่มประชากรได้จาก
สำนักงานปศุสัตว์ และ สำนักงานพานิชย์ เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ด้วยแบบสอบถาม ดำเนินการปี 2566
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา
ผลการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างโดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 66 อายุ 35-45ปี ร้อยละ 45.3 ระยะเวลาเปิด
ทำการร้าน ส่วนใหญ่ร้อยละ 39.6 และเป็นร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้อยละ 66 โดยการจำหน่ายยาปฏิชีวนะ