Page 705 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 705
S28
อภิปรายผล
การศึกษาเพื่อประเมินความรอบรู้สุขภาพกัญชาในคนไทยที่มีประสบการณ์การใช้กัญชาและผู้ที่
ไม่มีประสบการณ์ใช้กัญชา ทั้งหมดจำนวน 478 คน โดยผู้ที่มีประการณ์ในการใช้กัญชา จำนวน 233 คน
คิดเป็นร้อยละ 48.74 พบว่าใช้กัญชา เพื่อทางการแพทย์ จำนวน 119 คน คิดเป็นร้อยละ 24.90 ใช้กัญชา
เพื่อการพาณิชย์(ค้าขาย) จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 1.88 ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ จำนวน 32 คน คิดเป็น
ร้อยละ 6.69 ใช้กัญชาเพื่อประกอบอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 73 คน คิดเป็นร้อยละ 15.27 การใช้กัญชา
ในด้านอื่นๆ จำนวน 0 คน คิดเป็น และผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ จำนวน 245 คน คิดเป็นร้อยละ 51.26
ผู้วิจัยมีประเด็นในการอภิปรายผลตามวัตถุประสงค์ คือ เพื่อประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพเกี่ยวกับกัญชา
ระหว่างประชาชนไทยที่มีประสบการณ์ในการใช้กัญชาและผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการใช้กัญชา มีความรอบรู้
เกี่ยวกับกัญชาแตกต่างกันหรือไม่ โดยเมื่อพิจารณาถึง การมีประสบการณ์ ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล
ด้านกัญชาและสุขภาพ ความสามารถในการโต้ตอบ ซักถามหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านยาและสุขภาพ
กับบุคลากรด้านสาธารณสุข การตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้กัญชาและดูแลสุขภาพ การสอบถามเจตคติเกี่ยวกับ
การใช้กัญชาและการบอกต่อผู้อื่นเรื่องการใช้ยาและดูแลสุขภาพ พิจารณาคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้การใช้กัญชา
เปรียบเทียบระหว่างประชาชนไทยที่มีประสบการณ์การใช้กัญชาและไม่มีประสบการณ์การใช้กัญชาจากการวัด
โดยใช้ข้อคำถามจำนวนทั้งหมด 24 ข้อ
ผลการวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยประชาชนไทยมีประสบการณ์การใช้กัญชา เท่ากับ 82.33 คะแนน
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 11.01 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 70.37 คะแนนเฉลี่ยประชาชนไทย
ไม่มีประสบการณ์การใช้กัญชาเท่ากับ 76.42 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 13.60 คะแนน คิดเป็น
ร้อยละ 65.31 จะเห็นได้ว่าคะแนนระหว่างทั้งสองกลุ่มนั้นมีความใกล้เคียงกัน ซึ่งทั้งสองกลุ่มมีความรอบรู้
เกี่ยวกับกัญชาอยู่ในระดับพอใช้ได้ คือเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพเรื่องกัญชาได้ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์อ้างอิง
จากกระทรวงสาธารณสุข เมื่อดูการศึกษาอื่นซึ่งใกล้เคียงกับเรื่องความรอบรู้สุขภาพเกี่ยวกับกัญชาพบว่า
จากการศึกษาของภานุชนาถ อ่อนไกล ซึ่งศึกษาความรอบรู้ทางสุขภาพในการใช้กัญชาทางการแพทย์ของ
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในจังหวัดขอนแก่น พบว่าส่วนใหญ่มี ความรอบรู้ทางสุขภาพด้านการ
เข้าถึงข้อมูลสุขภาพ และการบริการสุขภาพ การสื่อสารและการศึกตัดสินใจ ในการใช้กัญชาทางการแพทย์
ภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับปานกลาง และการศึกษาของพิมพ์พิสาข์ จอมศรี และคณะที่ศึกษาความรอบรู้
เกี่ยวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ของวัยผู้ใหญ่และวัยผู้สูงอายุในจังหวัดเชียงรายพบว่าผู้ใหญ่มีความรอบรู้
ทางสุขภาพเกี่ยวกับกัญชาในระดับพอใช้ เช่นเดียวกัน ทั้งนี้อาจจะไม่สามารถระบุได้ถึงความสอดคล้องกัน
ของงานวิจัยเนื่องจากกลุ่มประชากรและปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องอาจมีผลต่อความรอบรู้และทัศนคติได้ แต่จะได้
เห็นถึงแนวโน้มว่า กลุ่มประชากรไทยมีความรอบรู้เกี่ยวเกี่ยวกับกัญชาอยู่ในระดับปานกลางหรือพอใช้
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทางสถิติพบว่าความรอบรู้ทั้งประชาชนไทยที่มีประสบการณ์การใช้กัญชาและไม่มี
ประสบการณ์การใช้กัญชา มีความรอบรู้ด้านกัญชาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งอาจ
กล่าวได้ว่าหน่วยที่เกี่ยวข้องควรจะมีการให้ความรู้ มีการติดป้ายประกาศหรือทำการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ
ข่าวสารสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับกัญชาเพื่อให้ประชากรไทยได้รับและทันข่าวกัญชาในปัจจุบัน