Page 453 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 453
L2
แผนเชิงรุก เพื่อกำกับ และติดตามหน่วยบริการดังกล่าว การดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย 1.6 Skills : เพิ่ม
ศักยภาพบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทยโดยมีการจัดอบรมการวิจัยทั้งหมด 4 ระยะ และจัดประชุม Case
Study ด้านการแพทย์แผนไทย เป้าหมาย แพทย์แผนไทยที่ปฏิบัติงานในหน่วยบริการระดับปฐมภูมิ มีอาจารย์
วิพากษ์ 2 ท่าน ได้แก่ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี และแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาล
บ้านผือ 1.7 Shared value: ค่านิยมร่วมกันในองค์กร “การเข้าถึง /ครอบคลุม /คุณภาพ /ความปลอดภัย”
เน้น Healthy City Model
(2) PESTLE Analysis ได้แก่ 2.1 Political: จังหวัดมีการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกระทรวง
สาธารณสุข และสอดคล้องตามตัวชี้วัดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เน้นการส่งเสริม และ
ป้องกันโรคด้วยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร 2.2 Economics: พัฒนาระบบ supply chain มีโรงพยาบาล
ห้วยเกิ้ง อำเภอกุมภวาปี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ผลิตยาสมุนไพร GMP เพื่อผลิตยาสมุนไพรสนับสนุนหน่วย
บริการทุกระดับ 2.3 Social: การจัดอบรม และประชุมแลกเปลี่ยนการบันทึกข้อมูล E-Claim สปสช. ให้
ครบถ้วนถูกต้องทั้งในรูปแบบ Online และ Onsite 2.4 Technology: ใช้ระบบสารสนเทศ HDC กระทรวง
สาธารณสุข และไลน์กลุ่มเพื่อกำกับ ติดตามงานให้บรรลุเป้าหมาย 2.5 Law/Legal รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 55 รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ
อย่างทั่วถึงเสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค และส่งเสริม
และสนับสนุนให้มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงพระราชบัญญัติระบบ
สุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 2.6 Environment: การนำสมุนไพรท้องถิ่นไปดูแลสุขภาพของประชาชนได้ เน้น
สมุนไพรในสาธารณสุขมูลฐาน และมีการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ การสร้างนวัตกรรมโดยใช้พืชสมุนไพรใน
ท้องถิ่นมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด การวิเคราะห์ข้อมูล ประมวลผลโดยอ้างอิงข้อมูลจาก HDC
กระทรวงสาธารณสุข ร้อยละของผู้ป่วยนอกที่มารับบริการในระดับปฐมภูมิได้รับการรักษาด้วยการแพทย์แผน
ไทยและการแพทย์ทางเลือก เปรียบเทียบการดำเนินงานปีงบประมาณ 2566 ก่อนพัฒนาระบบ และ
ปีงบประมาณ 2567 หลังพัฒนาระบบ
ผลการศึกษา
จังหวัดอุดรธานี ได้กำหนดแนวการให้บริการด้วยการแพทย์แผนไทย และแผนการออกเชิงรุกร่วมกับ
ทีมสหวิชาชีพผ่านกลไก 3 หมอ โดยเฉพาะการออกพื้นที่เชิงรุกในหน่วยบริการนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโรงเรียน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานประเด็นร้อยละของผู้ป่วยนอกที่มารับ
บริการในระดับปฐมภูมิได้รับการรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในปีงบประมาณ 2566
เปรียบเทียบกับ ปีงบประมาณ 2567 (ข้อมูล HDC กระทรวงสาธารณสุข ณ 29 มีนาคม 2567) ดังนี้
1. ร้อยละของผู้ป่วยนอกที่มารับบริการในระดับปฐมภูมิได้รับการรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือกเพิ่มจากร้อยละ 41.09 เป็นร้อยละ 53.65 และมีผลงานเป็นอันดับที่ 1 ของเขตสุขภาพที่ 8
2. อำเภอที่มีผลงานผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 45 (ปี 66 จำนวน 9 แห่ง และปี 67 จำนวน 16 แห่ง)
3. มี CPG แนวทางการให้บริการด้วยการแพทย์แผนไทยที่จัดทำร่วมกันกับทีมสหวิชาชีพ