Page 802 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 802
T28
เพราะชีวิตมีความหมาย จากไปอย่างสมศักดิ์ศรี”การพัฒนาระบบการถอดถอนเครื่องพยุงชีพ
ในผู้ป่วยประคับประคอง โรงพยาบาลบุรีรัมย์
กมลพรรณ เทียมมณีรัตน์, สุกัญญา พาสว่าง
ศูนย์ชีวาภิบาล โรงพยาบาลบุรีรัมย์
จังหวัดบุรีรัมย์ เขตสุขภาพที่ 9
ประเภทนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์
ความสำคัญของปัญหา
แม้ว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์จะก้าวหน้าไปมากแต่ยังคงมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่สามารถหายจากโรคหรือ
กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ผู้ป่วยต้องถูกพันธการด้วยเครื่องพยุงชีพ จำนวนหนึ่งต้องรักษาแยกในหอผู้ป่วยหนักเป็น
เวลานาน ทั้ง ๆ ที่การรักษาดังกล่าวเป็นเพียงเพื่อยื้อชีวิตในวาระสุดท้าย หลายรายเสียชีวิตไปพร้อมกับเครื่องพยุงชีพที่
ถูกเจาะและสอดใส่ในร่างกาย การถอดถอนเครื่องพยุงชีพจึงเป็นการดูแลที่ช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานและการรักษาที่
ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ อย่างไรก็ตามกระบวนการดังกล่าวยังไม่เป็นที่คุ้นเคยกับบุคลากรทางการแพทย์มากนัก จึงยังไม่
เป็นที่ปฏิบัติในโรงพยาบาล จึงนำมาสู่การพัฒนาระบบการถอดถอนเครื่องพยุงชีพในโรงพยาบาลขึ้น เพื่อมุ่งหวังให้เป็น
ทางเลือกสำหรับผู้ป่วยและครอบครัวในการดูแลผู้ป่วยในวาระท้ายของชีวิต
วัตถุประสงค์
เพื่อสร้างให้มีระบบการถอดถอนเครื่องพยุงชีพในโรงพยาบาล
เพื่อให้มีผู้ป่วยได้รับการถอดถอนเครื่องพยุงชีพในโรงพยาบาล
วิธีการศึกษา
การศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action research) ประสานผู้มีความเกี่ยวข้อง ได้แก่ แพทย์ พยาบาลประจำหอ
ผู้ป่วย ผู้ช่วยเหลือคนไข้ นิติกรของโรงพยาบาล ผู้นำทางจิตวิญญาณ จัดประชุมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เรื่องการถอดถอน
เครื่องพยุงชีพที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ (Medical futility) ในผู้ป่วยประคับประคองที่ต้องการถอดถอนเครื่องพยุงชีพ การ
ดูแลพยาบาลหลังการถอดถอนเครื่องพยุงชีพ นำมาสู่การสร้างแนวทางปฏิบัติมาตรฐานของโรงพยาบาลเรื่องระบบการ
ถอดถอนเครื่องพยุงชีพในโรงพยาบาลขึ้น และทำการเก็บข้อมูลตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 – 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ใช้
สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการศึกษา
ผู้ป่วยได้รับการถอดถอนเครื่องพยุงชีพในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 – 30 ตุลาคม พ.ศ.
2566 จำนวน 25 ราย อายุเฉลี่ย 71 ปี ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 52 (52%) เจ็บป่วยด้วยโรคอวัยวะสำคัญล้มเหลว
(End stage organ dysfunction) ร้อยละ 84 (84%)
สถานที่ถอดถอนเครื่องพยุงชีพแบ่งเป็นที่หอผู้ป่วยพิเศษ 2 ราย หอผู้ป่วยประคับประคอง 21 ราย
และหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤต 2 ราย