Page 12 - แนวทางการตรวจคัดกรองและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี
P. 12
5 แนวทางการตรวจคัดกรองและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ส าหรับแพทยเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2567
์
ั
การประเมินผู้ป่วยไวรัสตับอกเสบบีเรื อรัง เป็นการประเมินอาการ ระยะของโรค และความพร้อมของ
ผู้ป่วย เพื่อช่วยในการวางแผนการรักษา
สิ่งที่ผู้ป่วยควรได้รับการประเมินก่อนการรักษาไวรัสตับอักเสบบี ได้แก ่
ั
1) การซักประวติและตรวจร่างกาย เช่น โรคประจ้าตัว ยาที่ใช้ประจ้า ประวัติการตั งครรภ์ ประวัติ
โรคมะเร็งในครอบครัว อาการแสดงของโรคตับแข็งเรื อรัง (Signs of chronic liver disease) เช่น
Palmar erythema, Spider nevi เป็นต้น รวมถึงภาวะที่บ่งบอกว่าผู้ป่วยมีภาวะ Decompensated
cirrhosis เช่น ตัวตาเหลือง (Jaundice;Total bilirubin > 2 mg/dL) น ้าในช่องท้อง(Ascites)
รวมถึงการมีอาการทางสมองจากโรคตับ(Hepatic encephalopathy) เป็นต้น
2) ประเมินความรุนแรงของโรคตับโดยใช้ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
2.1 การประเมนพังผืดในตับ โดยการตรวจ Non-invasive fibrosis marker เช่น การตรวจ
ิ
APRI (AST to Platelet Ratio Index)หรือ FIB-4 (Fibrosis-4) เพื่อประเมน
ิ
Fibrosis stage ซึ่งเป็นข้อบ่งชี ในการรักษาไวรัสตับอับอักเสบบี ตามบัญชี ยา ง.
APRI (AST to Platelet Ratio Index)
ค านวณ
แปลผล APRI > 1.5 หมายถึง Cirrhosis
APRI 0.5-1.5 หมายถึง Significant fibrosis
APRI < 0.5 หมายถึง Rule out Significant fibrosis
FIB-4 (Fibrosis-4)
ค านวณ
แปลผล FIB-4>3.25 หมายถึง Cirrhosis
FIB-41.45-3.25 หมายถึง Significant fibrosis
FIB-4<1.45 หมายถึง Rule out Significant fibrosis
* ระวังการใช้ FIB-4 ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี และมากกว่า 65 ปีเนื่องจากมีความแม่นย้าใน
การวินิจฉัยจะลดลง
2.2 การตรวจปริมาณไวรัสตับเสบบี (HBV viral load)
2.3 การตรวจอลตราซาวด์ตับ ในสถานที่ที่สามารถท้าได้ เพอประเมินพนฐานตับและมะเร็งตับ
ื่
ื
ั
ั
หากไม่สามารถท้าได้ พจารณาส่งเข้ารับการตรวจอลตราซาวด์ตับ เมื่อสงสัยภาวะตับ
ิ
แข็ง หรือ มะเร็งตับ และตรวจคัดกรองมะเร็งตับ (HCC surveillance)ในผู้ที่มีข้อบ่งชี
ได้แก ่
2.3.1 ผู้ที่สงสัยภาวะตับแข็งจากการตรวจร่างกายพบอาการแสดงของโรคตับ
แข็ง หรือจากการตรวจเลือดด้วย Non-invasive fibrosis marker พบ