Page 17 - แนวทางการตรวจคัดกรองและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี
P. 17
10 แนวทางการตรวจคัดกรองและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ส าหรับแพทยเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2567
์
์
แนวทางการตรวจคัดกรองและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ส าหรับแพทยเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2567
2.3 กรณีผู้ที่มีตับแข็งทั งในกลุ่มที่เป็น Compensated cirrhosisและ Decompensated cirrhosis
2.3.1 แนะน้าตรวจติดตามอาการและตรวจ ALT, Creatinineทุก 3-6 เดือน
หากพบว่า ALT มากกว่า 1.5 เท่าของค่าปกติ พิจารณาประเมินการรับประทาน
ยาของผู้ป่วยและส่ง HBV viral load เพิ่มเติม
2.3.1.1 หากตรวจพบปริมาณไวรัสตับอกเสบบีในผู้ป่วยที่รับประทานยา
ั
ไม่สม่้าเสมอ แนะน้าให้ผู้ป่วยรับประทานยาเดิมอย่างเคร่งครัด
และเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ั
2.3.1.2 หากตรวจพบปริมาณไวรัสตับอกเสบบีในผู้ป่วยที่รับประทานยา
สม่้าเสมอแนะน้าให้ส่งต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ั
ิ
ื่
2.3.1.3 หากตรวจไม่พบปริมาณไวรัสตับอกเสบพจารณาหาสาเหตุอนที่
ท้าให้ ALT สูงขึ น เช่น ประวัติการรับประทานยาอน ๆ หรือ
ื่
สมุนไพร เป็นต้น
2.3.2 หากมีภาวะ Decompensated cirrhosis พิจารณาส่งต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
2.3.3 พจารณาส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพอท้าการตรวจคัดกรองเส้นเลือดขอด
ื่
ิ
หลอดอาหาร (Esophageal varices surveillance) ในผู้ป่วยตับแข็งและ
มีข้อบ่งชี ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี
9
2.3.3.1 Platelet น้อยกว่า 150 x10 /L หรือ
2.3.3.2 Transient elastography มากกว่า 20 kPa
ค าแนะน าการคัดกรองมะเร็งตับ (HCC surveillance)
แนะน้าคัดกรองมะเร็งตับในผู้ป่วยไวรัสตับอกเสบบีเรื อรัง ด้วยการอลตราซาวด์ตับร่วมกับตรวจระดับ
ั
ั
Alpha-fetoprotein (AFP) ทุก 6-12 เดือนตามข้อบ่งชี ในการคัดกรองมะเร็งตับ ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี
1. ผู้ที่มีตับแข็ง
2. ผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปีหรือผู้หญิงอายุมากกว่า 50 ปี
3. ผู้ที่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งตับ