Page 214 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 214

คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)



                      เทคนิคเฉพาะในการคลายเครียด
                      การคลายเครียดที่ใช้เทคนิคคลายเครียด เช่น สมาธิคลายเครียด หายใจคลายเครียด นวดคลายเครียด
               เทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การคลายเครียดจากกายสู่ใจ จินตนาการคลายเครียด โยคะ ฯลฯ

                      เทคนิคในการคลายเครียดที่จะนำเสนอในที่นี้มี ๒ วิธีคือ

                      ๑.   การฝึกกายหายใจ
                      ๒.   การฝึกสมาธิ

                      แต่ละวิธีมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไป ไม่จำเป็นต้องฝึกทั้ง ๒ วิธีก็ได้ เพียงเลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง

               ที่คุณชอบ สะดวก ทำแล้วคลายเครียดได้ดีเท่านั้นก็พอ
                      เมื่อฝึกการคลายเครียดไปสักระยะหนึ่งจะรู้สึกได้ว่าตัวเองมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เช่น

               ใจเย็นลง สบายใจขึ้น สุขภาพดีขึ้น ความจำดีขึ้น สมาธิดีขึ้น การเรียนหรือการทำงานดีขึ้น ความสัมพันธ์กับ
               คนรอบข้างดีขึ้น ฯลฯ

               การฝึกการหายใจ

                      หลักการ
                       ตามปกติคนทั่วไปจะหายใจตื้นๆ โดยใช้กล้ามเนื้อหน้าอกเป็นหลัก ทำให้ได้ออกซิเจนไปเลี้ยง
               ร่างกายน้อยกว่าที่ควร

                       โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาเครียด คนเราจะยิ่งหายใจถี่และตื้นมากกว่าเดิม ทำให้เกิดอาการ
               ถอนหายใจเป็นระยะๆ เพื่อให้ได้ออกซิเจนมากขึ้น
                       การฝึกหายใจช้าๆ ลึกๆ โดยใช้กล้ามเนื้อกระบังลมบริเวณท้องจะช่วยให้ร่างกายได้อากาศเข้าสู่

               ปอดมากขึ้น เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด และยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงแก่กล้ามเนื้อหน้าท้องและลำไส้ด้วย
               การฝึกหายใจอย่างถูกวิธี จะทำให้หัวใจเต้นช้าลง สมองแจ่มใส เพราะได้ออกซิเจนมากขึ้น และการหายใจออก
               อย่างช้าๆ จะทำให้รู้สึกว่าได้ปลดปล่อยความเครียดออกไปจากตัวจนหมดสิ้น


                      วิธีการฝึก
                       นั่งในท่าที่สบาย หลับตา เอามือประสานไว้บริเวณท้อง ค่อยๆ หายใจเข้า พร้อมๆ กับนับเลข ๑ ถึง ๔
               เป็นจังหวะช้าๆ ๑...๒...๓...๔... ให้มือรู้สึกว่าท้องพองออก

                       กลั้นหายใจเอาไว้ชั่วครู นับ ๑ ถึง ๔ เป็นจังหวะช้าๆ เช่นเดียวกับเมื่อหายใจเข้า
                       ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก โดยนับ ๑ ถึง ๘ อย่างช้าๆ ๑...๒...๓...๔...๕...๖...๗...๘... พยายาม
               ไล่ลมหายใจออกมาให้หมด สังเกตว่าหน้าท้องแฟบลง

                       ทำซ้ำอีก โดยหายใจเข้าช้าๆ กลั้นไว้ แล้วหายใจออก โดยช่วงที่หายใจออกให้นานกว่าช่วงหายใจเข้า

                      ข้อแนะนำ
                       การฝึกการหายใจ ควรทำติดต่อกันประมาณ ๑ - ๕ ครั้ง

                       ควรฝึกทุกครั้งที่รู้สึกเครียด รู้สึกโกรธ รู้สึกไม่สบายใจ หรือฝึกทุกครั้งที่นึกได้
                       ทุกครั้งที่หายใจออก ให้รู้สึกได้ว่าผลักดันความเครียดออกมาด้วยจนหมด เหลือไว้แต่ความรู้สึก
               โล่งสบายเท่านั้น

                       ในแต่ละวัน ควรฝึกการหายใจที่ถูกวิธีให้ได้ประมาณ ๔๐ ครั้ง แต่ไม่จำเป็นต้องทำติดต่อในคราวเดียวกัน


                                                       ๑๓๘
   209   210   211   212   213   214   215   216   217   218   219