Page 211 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 211
คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)
๑๒.๒ การทำกิจกรรมที่กระตุ้นระบบประสาทสัมผัสและการรับรู้ (การได้ยิน การรับรส การได้กลิ่น
การสัมผัส) เช่น การร้องเพลง การเล่าเรื่องหรืออ่านหนังสือให้ฟัง กิจกรรมที่ทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว เช่น
พาไปเดินเล่น การเต้นรำ การว่ายน้ำ กิจกรรมการวาดภาพ ปั้นดินน้ำมัน การทำสวน การเลี้ยงสัตว์ที่ผู้ป่วยชอบสนใจ
อยากเลี้ยง การออกกำลังกายลดความเครียด ฯลฯ
๑๒.๓ ควรพาไปเยี่ยมบ้านญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง พบปะผู้คนที่ผู้ป่วยรัก ชอบพอ หรือกิจกรรมทาง
สังคมในญาติมิตรที่ผู้ป่วยสามารถไปได้ เช่น งานวันเกิด งานทำบุญเลี้ยงพระ ฯลฯ
๑๒.๔ พาไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้างตามโอกาส พาไปนั่งรถเล่น พาไปสวนสาธารณะเดินเล่น หรือ
ให้ผู้ป่วยนั่งเล่นสนามหญ้าหน้าบ้านเพลินๆเพื่อให้มีความสุขและลืมเรื่องที่กังวล
๑๒.๔ ผู้ป่วยที่เลื่อมใสศาสนา อาจพาไปทำกิจกรรมทางศาสนาที่นับถือ
๑๓. พฤติกรรมก้าวร้าว
มักมีสาเหตุมาจากความผิดปกติด้านความจำ ทำให้เกิดปัญหาการตัดสินใจ การแก้ไขปัญหาต่างๆ
ลดลง กิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำได้ ก็ทำไม่ได้ ก่อให้เกิดความรู้สึกทางลบ คิดว่าตนไร้ประโยชน์เป็นภาระแก่ลูกหลาน
มีความรู้สึกระแวงว่ามีคนปองร้าย หลงผิด ประสาทหลอน การรับรู้ต่างๆ ผิดไป หรือควบคุมอารมณ์ไม่ได้
หรือความสัมพันธ์กับผู้ดูแลไม่ดี และมีพฤติกรรมก้าวร้าวเดิมของผู้ป่วยก่อนการเกิดโรคสมองเสื่อม
แนวทางการช่วยเหลือ
๑๓.๑ ไม่ควรแสดงอาการไม่พอใจหรือต่อปากต่อคำกับผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยอัลไซเมอร์จะไม่รู้จัก
วิธีควบคุมอารมณ์ตนเองและไม่รู้ว่าพฤติกรรมที่แสดงออกนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
๑๓.๒ ระหว่างที่ผู้ป่วยโกรธหรือโมโห พยายามไม่สัมผัสร่างกายของผู้ป่วย เพราะการแตะตัวผู้ป่วย
จะทำให้โกรธมากขึ้น ให้ผู้ป่วยได้แสดงอารมณ์โกรธ
๑๓.๓ สังเกตว่า ความก้าวร้าวที่เกิดขึ้นนั้น มีสาเหตุจากอะไร เช่น หาสิ่งของไม่เจอ การต้อง
อยู่คนเดียว ความเบื่อหน่าย หิว เจ็บปวด หรือเหนื่อยล้า ถ้าทราบสาเหตุแล้วควรจัดการ ดูแลไม่ให้เกิดสิ่งกระตุ้น
ความโกรธต่างๆ นอกจากนี้การให้ผู้ป่วยทำงานหรือกิจกรรมใดๆ ควรจะแบ่งงานหรือกิจกรรมเป็นส่วนๆ ให้ผู้ป่วย
สามารถทำได้และไม่หงุดหงิด
๑๓.๔ หากแสดงอาการโมโห จากการหาสิ่งของไม่เจอ ควรอธิบายและเบี่ยงเบนความสนใจ
ไปสู่เรื่องอื่น ชักชวนผู้ป่วยออกจากสถานการณ์ ถ้าเป็นของชิ้นเดิมๆ ที่มักทำหายบ่อย เช่น กระเป๋าสตางค์
อาจเตรียมกระเป๋าสตางค์แบบที่ผู้ป่วยมีสำรองไว้หลายๆ อัน เมื่อผู้ป่วยหาไม่เจอ ก็สามารถหยิบให้ผู้ป่วยได้
๑๓.๕ จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ หลีกเลี่ยงการย้ายสิ่งของ ของใช้ของผู้ป่วย
๑๓.๖ หากเป็นปัญหามากปรึกษาแพทย์ เพื่อรับยาต่อไป
๑๔. พฤติกรรมกลั้นอุจจาระ ปัสสาวะไม่อยู่
ปัญหานี้อาจมีสาเหตุ จากยาที่รับประทาน อาการของโรคทางกายอื่นๆ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เกิดจากโรคทางระบบประสาท และอาการสับสน และภาวะสมองเสื่อม (หาห้องน้ำไม่พบ เข้าใจว่าของบางสิ่งเป็น
โถปัสสาวะ) หรือเกิดจากการที่ผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เป็นปกติ หรือการที่ท้องผูกมากๆ ทำให้เกิด
การกระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อย หรือกล้ามเนื้อหูรูดของผู้ป่วยเสื่อม อาการเหล่านี้จะลดลง
ถ้าได้รับการแก้ไขตามสาเหตุ
๑๓๕