Page 212 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 212

คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)



                           แนวทางการช่วยเหลือ
                           ๑๔.๑ จัดให้ผู้ป่วยอยู่ชั้นล่างใกล้ห้องน้ำ ทางเดินไม่วกวน เปิดไฟสว่างตลอดเวลา เพื่อความ

               สะดวกและปลอดภัย
                           ๑๔.๒  ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา
                           ๑๔.๓  ปรับเรื่องอาหาร ให้รับประทานง่าย ย่อยง่าย

                           ๑๔.๔  สังเกตหรือบันทึกการขับถ่าย ไม่ควรให้ผู้ป่วยท้องผูกเป็นเวลานานๆ ถ้าท้องผูกอาจต้อง
               ให้ยาระบาย หรือสวนอุจจาระ

               ปัญหาความเครียดของผู้ดูแล

                      ความตระหนักและใส่ใจในเรื่องความเครียด
                      การมีหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยต่อเนื่อง ยาวนาน อยู่ในสถานการณ์กดดัน สถานการณ์เครียดต่อเนื่อง

               อาจทำให้ผู้ดูแลละเลยที่จะสังเกตตนเองโดยเฉพาะปัญหาด้านจิตใจ ด้านอารมณ์ จนกระทั่งผู้ดูแลมีปัญหาทาง
               ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และเป็นผู้ป่วยลำดับที่สอง (Secondary patient) ความเครียดที่เกิดต่อเนื่อง ทำให้
               ระบบภูมิป้องกันตนเองบกพร่องและทำให้เกิดความเจ็บป่วยทางร่างกาย เกิดความเบื่อหน่าย เหนื่อยล้า ไม่อยาก

               ทำงานต่อหรือมีภาวะหมดไฟ (burn out) การป้องกันปัญหาเหล่านี้ คือ การรู้จักจัดการความเครียดที่เกิดขึ้น
               รู้จักสังเกตความเครียดที่เกิดกับตนเอง รู้สาเหตุของการเกิดความเครียด และจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

                      สาเหตุความเครียดในผู้ดูแล

                      สาเหตุเกิดจากอะไรก็ได้ที่มีผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ อารมณ์ เศรษฐกิจ สังคมของผู้ดูแล ผู้ดูแล
               แต่ละคนก็มีปัญหาแตกต่างกันไป เช่น ความเบื่อหน่ายในงานที่ทำประจำ การต้องดูแลผู้สูงอายุที่ต้องดูแลความ

               ต้องการเหมือนเด็ก การถูกทอดทิ้งให้ดูแลผู้ป่วยคนเดียว รับภาระคนเดียวนานๆ เกิดความขัดแย้งในครอบรัว
               ความโกรธและความรู้สึกผิด (โกรธผู้ป่วยที่ทำพฤติกรรมที่เป็นปัญหาต่างๆ รู้สึกผิดที่บางครั้งพูดจาไม่ดี
               ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ดีพอ จนกลายเป็นความเครียดสะสม)

                      ผลของความเครียดต่อความผิดปกติทางร่างกาย จิตใจ พฤติกรรมความเครียดจะส่งผลให้เกิด

               ความผิดปกติทางร่างกาย จิตใจและพฤติกรรมดังนี้
                       ความผิดปกติทางร่างกาย ได้แก่ ปวดศีรษะ ไมเกรน ท้องเสียหรือท้องผูกนอนไม่หลับหรือ
               ง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เบื่ออาหารหรือกินมากกว่าปกติ ท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย

               ประจำเดือนมาไม่ปกติ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มือเย็นเท้าเย็น เหงื่อออกตามมือตามเท้า ใจสั่น ถอนหายใจบ่อยๆ
               ผิวหนังเป็นผื่นคัน เป็นหวัดบ่อยๆ แพ้อากาศง่าย ฯลฯ

                       ความผิดปกติทางจิตใจ ได้แก่ ความวิตกกังวล คิดมาก คิดฟุ้งซ่าน หลงลืมง่ายไม่มีสมาธิ หงุดหงิด
               โกรธง่าย ใจน้อย เบื่อหน่าย ซึมเศร้า เหงา ว้าเหว่ สิ้นหวังหมดความรู้สึกสนุกสนาน เป็นต้น
                       ความผิดปกติทางพฤติกรรม ได้แก่ สูบบุหรี่ ดื่มสุรามากขึ้น ใช้สารเสพติด ใช้ยานอนหลับ จู้จี้ขี้บ่น

               ชวนทะเลาะ มีเรื่องขัดแย้งกับผู้อื่นบ่อยๆ ดึงผม กัดเล็บ กัดฟัน ผุดลุกผุดนั่ง เงียบขรึม เก็บตัว เป็นต้น

                      การสังเกตอาการเครียด
                      ผู้ดูแลจะจัดการความเครียดที่เกิดกับตนได้ เมื่อสามารถสังเกตอาการที่แสดงว่าตนนั้นเครียดแล้ว

               อาการที่แสดงว่าคุณเครียดและต้องพบแพทย์ จิตแพทย์ มีดังนี้


                                                       ๑๓๖
   207   208   209   210   211   212   213   214   215   216   217