Page 235 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 235

คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)






                                                    ใบความรู้ที่ ๘.๒




                                       อาการเจ็บป่วยที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ

                                           และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น



                                            อาการหน้ามืด - วิงเวียน - เป็นลม

                            พระสงฆ์ที่เป็นผู้สูงอายุมักมีอาการหน้ามืด วิงเวียน และเป็นลมอยู่เสมอ ความจริงอาการดังกล่าวไม่ใช่โรค

                     แต่เป็นอาการที่เชื่อมโยงกันอย่างหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นทันทีทันใด โดยมากนักจะเกิดในขณะปรับเปลี่ยนท่าทาง หรือ
                     เปลี่ยนอิริยาบถเช่น นอนแล้วลุก หรือนั่งอยู่แล้วลุกขึ้นทันทีหรือการที่ร่างกายต้องออกกำลังมากเกินไป เคร่งเครียด
                     มากเกินไปบางครั้งอาจเป็นเพียงหน้ามืดตาลาย สักครู่ แล้วหายไปบางครั้งเป็นมาก จะมีอาการวิงเวียน ตามมาแล้ว
                     จึงหายไปหรือบางครั้งเป็นมากถึงที่สุดหลังวิงเวียน แทนที่จะหาย กลับเป็นมากขึ้นถึงเป็นลมหมดสติไปในที่สุด
                            อย่างไรก็ตามอาการหน้ามืด - วิงเวียน - เป็นลมในผู้สูงอายุ มักจะเป็นชั่วขณะสั้นๆ แล้วหายไปเอง

                     ไม่เกิดอันตรายแต่อย่างใด แต่เป็นเครื่องเตือนสติพระสงฆ์ที่เป็นผู้สูงอายุว่าเป็นผู้ที่ร่างกายไม่สมบูรณ์แข็งแรงนัก
                     จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่สุขภาพตนเองให้มากขึ้น

                     สาเหตุที่เกิดอาการดังกล่าว

                            เกิดจากการที่สมองได้รับออกซิเจน ซึ่งนำพาไปโดยเลือดไม่เพียงพอหรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คงต้อง
                     พูดว่า เลือดสมองไม่เพียงพอ ธรรมดาคนเรา ถ้ายืน หรือนั่งหรือเดิน สมองเป็นอวัยวะส่วนที่อยู่สูงที่สุดของร่างกาย
                     ดังนั้นเลือดที่จะขึ้นไปเลี้ยงสมอง จึงต้องสูบฉีดขึ้นไปด้วยกำลังแรงมากกว่าเลือดที่ไปเลี้ยงท้อง หรือแขนขา
                     ซึ่งอยู่ต่ำกว่า เปรียบง่ายๆ เหมือนเราอยู่ในบ้านสองชั้นน้ำประปาที่จะขึ้นชั้นบนต้องดันแรงกว่าชั้นล่างจึงจะขึ้นไป

                     ถึงได้ เช่น ในขณะที่เรานอน เลือดจากหัวใจถูกสูบฉีดไปเลี้ยงสมองซึ่งขณะนอนจะอยู่ในแนวราบเดียวกับหัวใจ
                     แรงดันเลือดก็ไม่จำเป็นต้องมากนักเลือดก็ไปถึงสมองได้ แต่พอเราลุกขึ้นนั่งหรือยืน สมองจะอยู่สูงกว่าหัวใจ
                     แรงดันเลือด ที่จะไปสู่สมองจะถูกปรับให้แรงขึ้นกว่าเก่าเพื่อให้เลือดขึ้นสู่สมองได้ ในจำนวนเท่าเดิมกลไกปรับ
                     แรงดันเลือดเช่นนี้เป็นกลไกอัตโนมัติของร่างกาย ในคนหนุ่มคนสาวหรือผู้สูงอายุที่สมบูรณ์แข็งแรงกลไกจะ

                     ปรับเปลี่ยนได้ทันทีโดยไม่ใช้เวลาเป็นพิเศษจึงไม่ทำให้ร่างกายรู้สึกผิดปกติแต่อย่างใด
                            แต่ในผู้สูงอายุที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรง หรือคนที่มีโรคในร่างกายบางอย่าง กลไกอัตโนมัติควบคุมแรงดันเลือด
                     ดังกล่าวเสื่อมสภาพลง ทำให้การปรับเปลี่ยนแรงดันเลือดไม่ดีเท่าที่ควรจนกว่าร่างกายสามารถปรับกลไกอัตโนมัติ
                     ทำให้แรงดันเลือดเข้าสู่สภาวะปกติหัวสมองได้รับเลือดเพียงพอ อาการดังกล่าวก็จะค่อยๆ หายไปเองไม่ถึงกับ

                     ทำให้สมองพิการ หรือเสียชีวิตแต่ประการใด
                            ในคนสูงอายุจะพบอาการนี้มากในการเปลี่ยนแปลงอิริยาบถต่างๆ หรือ การออกแรงเบ่งนานๆ แล้ว
                     คลายเบ่งทันทีทันใด ที่เห็นได้ชัดและพบบ่อย ได้แก่ ขณะนั่ง โดยเฉพาะนั่งยองๆ ทำกิจวัตรประจำวันแล้วลุกขึ้น
                     ยืนทันที จะมีอาการดังกล่าว เพราะขณะนั่งยองๆ ช่องท้องถูกกดดันด้วยเข่า ทำให้ช่องท้องเล็กลง เลือดส่วนใหญ่

                     ที่อยู่ในช่องท้องจะถูกดันขึ้นสู่สมองหรือเบื้องบนมาก แต่พอลุกขึ้นยืนทันทีช่องท้องถูกคลายจากการกดจะขยายตัว
                     ออกทันที จะทำหน้าที่คล้ายฟองน้ำดูดเอาเลือดจากส่วนบนลงล่างสู่ช่องท้องทันที ถ้ากลไกอัตโนมัติปรับเปลี่ยน
                     แรงดันโลหิตดังกล่าวไม่ดีพอ ก็จะทำให้สมองขาดเลือดมีอาการหน้ามืดเกิดขึ้นทันที


                                                             ๑๕๙
   230   231   232   233   234   235   236   237   238   239   240