Page 74 - ผลงานวิชาการระบบส่งต่อ 2567
P. 74
โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ จ. ชัยภูมิ
พัฒนาแนวปฏิบัติการรับส่งต่อผู้ป วยเด็ก
Fast track
เครือข่ายบริการสุขภาพภูแท่นเกษตรสาร
การวิเคราะห์ข้อมูล
ความสําคัญของ ป ญหาการวิจัย
เชิงปริมาณ
โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ เป นโรงพยาบาลทั วไป (M1) ขนาด 300 เตียง ในจังหวัดชัยภูมิ ดูและประชากร อ. ภูเขียว อ.บ้านแท่น
อ.เกษตรสมบูรณ์ และ อ.คอนสาร มีจํานวนประชากร ประมาณ 337,837 คน โดยมีแพทย์เฉพาะทางทุกสาขา สําหรับสาขากุมารเวชกรรม แบบสอบถามความพึงพอใจของญาติและความพึงพอใจของเจ้าหน้าที โรงพยาบาล
โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ มีกุมารแพทย์ จํานวน 3 คน ให้บริการทั งผู้ป วยนอกและผู้ป วยใน มีการจัดระบบให้บริการรับส่งต่อจาก ลูกข่าย แพทย์ พยาบาลวิชาชีพ ที มีส่วนได้เสียในการรับส่งต่อผู้ป วย จาก 4 โรงพยาบาล
โรงพยาบาลลูกข่าย ทั ง 3 อําเภอ หากเกินขีดความสามารถผู้ป วยเด็กจะส่งต่อมารับการรักษาต่อเนื องยังโรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ คือ โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลบ้านแท่น โรงพยาบาลเกษตรสมบูรณ์
เพื อให้การรักษาเฉพาะทางโดยกุมารแพทย์ สถิติการให้บริการ 5 ป ย้อนหลัง มีการรับส่งต่อมาจากโรงพยาบาลลูกข่าย ตั งแต่ป 2563-2567
ผู้ป วยเด็กที ส่งต่อมายังโรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ มีจํานวน 80, 66, 56, 87 และ 78 รายตามลําดับ ในป 2566-2567 พบว่า และโรงพยาบาลคอนสาร จํานวน 20 คน โดยใช้สถิติการแจกแจงความถี ร้อยละค่าเฉลี ย
มีจํานวนผู้ป วยเด็กที รับส่งต่อจากโรงพยาบาลลูกข่ายจํานวนมากขึ น กระบวนการรับส่งต่อผู้ป วยเด็กจากโรงพยาบาลลูกข่ายที ผ่านมา พบป ญหา และส่วนเบี ยงเบนมาตรฐาน
คือ ผู้ป วยที ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลลูกข่าย จะต้องได้รับการประเมินและทําหัตถการต่าง ๆ ณ ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ
เนื องจากห้องฉุกเฉินรับผู้ป วยทุกประเภท มีผู้ป วยจํานวนมาก ทําให้ผู้ป วยเด็กที ส่งต่อมาไม่ได้รับการประเมินและทําหัตถการในทันทีจากพยาบาล เชิงคุณภาพ
หอผู้ป วยกุมารเวชกรรมที มีความเชี ยวชาญและกุมารแพทย์ ทําให้ผู้ป วยบางรายมีอาการทรุดลง ญาติไม่พึงพอใจ ห้องฉุกเฉินมีความแออัด
ระยะเวลารอคอยนาน และพบข้อร้องเรียน การสนทนากลุ่ม (Focus group discussion) โดยการวิเคราะห์เชิงเนื อหา (content
ดังนั น ผู้ศึกษาในฐานะกุมารแพทย์ ที รับผิดชอบการดูแลสุขภาพเด็กในเครือข่ายภูแท่นเกษตรสาร จึงมีแนวทางการพัฒนาแนวปฏิบัติการ analysis) โดยกุมารแพทย์ 3 คน แพทย์ใช้ทุนโรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ และ
รับส่งต่อผู้ป วยเด็ก Fast track เครือข่ายบริการสุขภาพภูแท่นเกษตรสารขึ น เพื อให้สามารถดูแลผู้ป วยเด็กที รับส่งต่อมาจากโรงพยาบาล โรงพยาบาลเครือข่ายจํานวน 4 คน และพยาบาลวิชาชีพ จาก 4 โรงพยาบาล จํานวน 8 คน
ลูกข่ายให้ได้รับการดูแลรักษาโดยกุมารแพทย์อย่างรวดเร็วและครอบคลุมมากยิ งขึ น
วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เพื อพัฒนาแนวปฏิบัติการรับส่งต่อผู้ป วยเด็ก เครือข่ายบริการสุขภาพ ภูแท่นเกษตรสาร ให้ได้รับบริการที สะดวกและรวดเร็วมากยิ งขึ น ผลการศึกษา: แนวปฏิบัติ
2. เพื อประเมินประสิทธิภาพการพัฒนาแนวปฏิบัติการรับส่งต่อผู้ป วยเด็ก เครือข่ายบริการสุขภาพภูแท่นเกษตรสาร
3. เพื อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาแนวปฏิบัติของเครือข่ายบริการสุขภาพภูแท่นเกษตรสาร
วิธีการศึกษา
กระบวนการวิจัยและพัฒนา
(research and development [R&D])
ผลการศึกษา: ด้านกระบวนการการประสานงาน
3 ขั นตอน
1. ระยะเตรียมการ
มีการเตรียมความพร้อมของทีมที จะร่วมกันพัฒนา การสืบค้นและการเก็บรวบรวมข้อมูล
การสนทนากลุ่ม ทบทวนวรรณกรรมและติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลลูกข่าย สอบถาม
ความต้องการมีส่วนร่วม ชี แจงวัตถุประสงค์และประโยชน์ที คาดว่าจะได้รับ
2. ระยะดําเนินการ
2.1) การวิเคราะห์สถานการณ์ (Situational analysis)
2.2) ผู้ศึกษานําเสนอข้อมูลต่อคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลและผู้เกี ยวข้อง เพื อร่วมกัน
วิเคราะห์ความต้องการการพัฒนา พิจารณาความเป นไปได้และประชุมสนทนากลุ่ม
2.3) ประชุมเชิงปฏิบัติการ ร่วมกับวิชาชีพที เกี ยวข้อง ผลการศึกษา: ด้านประสิทธิภาพ และความพึงพอใจ
3. ระยะติดตามและประเมินผล
3.1) ประเมินผลของวงจรเชิงปฏิบัติการ
3.2) ประเมินผลลัพธ์จากข้อมูล แบบสอบถามความพึงพอใจ และถอดบทเรียน ร่วมแลกเปลี ยน
เรียนรู้จากการสนทนาจากทีมผู้เกี ยวข้องและมีส่วนได้เสีย
กลุ่มตัวอย่าง
มี 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที 1 ญาติผู้ป วยเด็กที รับส่งต่อมาจากโรงพยาบาลลูกข่าย ตั งแต่ 1 ตุลาคม 2565-31 มีนาคม 2567 จํานวน 120 ราย
กลุ่มที 2 แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที ที เกี ยวข้องในการรับส่งต่อผู้ป วยเด็ก จาก 4 โรงพยาบาล จํานวน 20 ราย
ข้อสรุป
การรับส่งต่อจากโรงพยาบาลลูกข่ายถึงหอผู้ป วยกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ
สามารถลดระยะเวลาการรอคอย ลดภาวะทรุดลงของผู้ป วยเด็ก ผู้ป วยและญาติมีความพึงพอใจ
ลดความแออัดของหอผู้ป วยฉุกเฉินได้
ข้อเสนอแนะ
1. การนําผลงานวิจัยไปใช้ ควรมีการศึกษาและวิเคราะห์บริบทของหน่วยงานนั น ๆ ให้มีความละเอียด
ทั งด้านบุคลากร อุปกรณ์ กระบวนการจัดการและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม และควรมีการขยายผลการปฏิบัติ
สู่โรงพยาบาลอื น ๆ ในเขตสุขภาพเดียวกัน
2. ผู้ศึกษาสามารถนํากระบวนการจัดบริการรับส่งต่อผู้ป วยแบบ Fast track ไปใช้ในการพัฒนารูปแบบ
การจัดบริการในหน่วยบริการในหลาย ๆ สาขาได้ หากมีการประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
พญ. นฤมล บําเพ็ญเกียรติกุล กุมารแพทย์ รพ. ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ