Page 113 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 113

C5



                  อภิปรายผล
                         ตั้งแต่ประกาศใช้แนวทาง Fast Pass 105 วัน มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ Fast Pass ทั้งหมด 122 คน (2.7 %

                  จากกลุ่ม Refer) ลดแออัดจากจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรอคอยการตรวจจากบุคลากรทางการแพทย์ในห้องฉุกเฉินได้
                  0.7% ระยะเวลารอคอย เฉลี่ย 8 นาที ซึ่งเวลารอคอยสั้นลงจากระบบปกติ 90.2 - 94.3 % อย่างไรก็ตาม มีบางราย
                  ที่ระยะเวลารอคอยเกินเป้าหมายจากแนวทางที่ตั้งไว้ (ภายใน 15 นาที) พบว่า เกิดจากระบบบริหารจัดการ

                  ทรัพยากรเปลและพนักงานเคลื่อนย้ายในช่วงเวลานั้น ๆ ไม่เพียงพอ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุเกิน 60 ปี
                  วินิจฉัยกระดูกบริเวณรอบข้อสะโพกหักจากการพลัดตกหกล้ม มีผลตรวจภาพรังสีทั่วไปจากรพ.ต้นทาง ได้ยา
                  บรรเทาอาการปวดและดามพยุงตำแหน่งกระดูกหัก เมื่อถึงห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาราช ไม่จำเป็นต้องใช้
                  ทรัพยากรเพิ่มเติม และไม่ต้องทุกข์ทรมานจากการปวดเพราะต้องเคลื่อนย้ายและรอตรวจในห้องฉุกเฉินนาน
                  รองลงมาเป็นผู้ป่วยจิตเวช ที่มีภาวะคลุ้มคลั่งจากการใช้สารเสพติดกระตุ้น เมื่อผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้ไปหอผู้ป่วย

                  จิตเวชได้เร็ว สามารถลดความเครียดและวิตกกังวลของบุคคลากรทางการแพทย์ในการจัดการภาวะความรุนแรง
                  ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้ และลดความเสี่ยงต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์เสียหายจากการอาละวาดของผู้ป่วยจิตเวช
                  ขณะรอคอยในห้องฉุกเฉินเป็นเวลานาน ผู้ป่วยกลุ่มอื่น ๆ ที่ได้เข้าระบบ Fast Pass ทุกคนจะได้รับการวินิจฉัย

                  ที่ค่อนข้างแม่นยำ มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการและภาพรังสีช่วยยืนยันจากรพ.ต้นทางมาแล้ว จึงไม่จำเป็น
                  ต้องรอแพทย์ตรวจหรือใช้ทรัพยากรในห้องฉุกเฉินซ้ำอีก สามารถ Admit ไปแผนกที่จำเพาะกับผู้ป่วยได้ทันที
                  เป็นการบริหารทรัพยากรระหว่างรพ. สอดคล้องกับนโยบาย One Province One ER ของกระทรวงสาธารณสุข
                         อย่างไรก็ตามยังมีผู้ป่วยกลุ่มส่งต่อ (Refer) อีกส่วนใหญ่ (97.3%) ที่ยังไม่สามารถเข้าระบบ Fast Pass

                  ได้เนื่องจากการวินิจฉัยกลุ่มอาการยังคลุมเครือ จำเป็นต้องมาประเมินเพิ่มโดยแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินหรือใช้
                  วิธีการตรวจจำเพาะที่โรงพยาบาลต้นทางไม่สามารถทำได้ เช่น เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, อัลตราซาวน์ เป็นต้น
                  หรืออาการและสัญญาณชีพของผู้ป่วยไม่คงที่จำเป็นต้องเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อช่วยรักษาให้พ้นภาวะวิกฤติ จึงส่ง
                  เข้าแผนกที่จำเพาะ และเกณฑ์ Fast Pass ของบางแผนกยังไม่ครอบคลุมผู้ป่วยกลุ่มส่งต่อทั้งหมด

                  สรุปและข้อเสนอแนะ

                         ระบบ Fast Pass ห้องฉุกเฉินรพ.มหาราชนครศรีธรรมราช สามารถลดการรอคอยในห้องฉุกเฉินได้
                  เพราะลดรอยต่อ ทำให้ผู้ป่วยเข้าสู่การรักษาจำเพาะในแต่ละแผนกได้อย่างรวดเร็ว ลดการใช้ทรัพยากรซ้ำซ้อน
                  ในห้องฉุกเฉิน ตอบสนองนโยบาย One Province One ER ส่วนการลดแออัด 0.7% เพราะเป็นการเริ่มต้น

                  ของระบบเพียงระยะเวลา 3 เดือน ดังนั้นจึงควรมีการทบทวนเกณฑ์การรับผู้ป่วย Fast Pass ของแต่ละแผนก
                  ในโรงพยาบาลให้ครอบคลุมผู้ป่วยที่มากับระบบส่งต่อให้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการลดความแออัดในห้องฉุกเฉิน
                  เพิ่มมากขึ้น
   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118