Page 115 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 115
C7
อำเภอปราสาท หลังจากการดำเนินการตามข้อเสนอ สรุปผลและถอดบทเรียนเป็นวงรอบที่ 1 ของการพัฒนา
โดยศึกษาในช่วงเดือนตุลาคม 2566 - เดือนมีนาคม 2567
ผลการศึกษา
กลุ่มตัวอย่าง 900 คน เพศชาย 591 คน คิดเป็นร้อยละ 65.67 และเพศหญิง 309 คน คิดเป็นร้อยละ
34.33 ระดับการศึกษามัธยมปลาย 397 คน คิดเป็นร้อยละ 51.89 รองลงไประดับปริญญาตรี 281 คน คิดเป็น
ร้อยละ 31.22 เป็นบุคลากรในส่วนราชการถึง 499 คน คิดเป็นร้อยละ 55.44 รองลงไปเป็นผู้นำชุมชน 369 คน
คิดเป็นร้อยละ 41.00 สิทธิ์การรักษามากที่สุด คือ เบิกตรงต้นสังกัด 540 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 และ
มากกว่าครึ่งหนึ่งไม่เคยรับบริการการแพทย์ฉุกเฉิน 536 คน คิดเป็นร้อยละ 59.56
การรับรู้ต่อระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 796 คน
คิดเป็นร้อยละ 88.44 รับรู้ว่าถ้าจะเรียกใช้ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ต้องโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1669
มี 817 คน คิดเป็นร้อยละ 90.78 รับรู้ว่าติดต่อเบอร์นี้ได้ทั่วประเทศ มี 169 คน คิดเป็นร้อยละ 18.78 ไม่แน่ใจ
ว่าเรียกใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินเสียค่าโทรศัพท์หรือไม่ นอกจากนั้นยังพบว่ามีถึง 199คน คิดเป็นร้อยละ
22.11 ที่ไม่แน่ใจว่าการเรียกใช้การบรีการการแพทย์ฉุกเฉิน ต้องจ่ายค่าบริการหรือไม่ แต่ 868 คน คิดเป็น
ร้อยละ 96.44 รับรู้ว่าบริการการแพทย์ฉุกเฉิน สามารถรียกใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมี 154 คน คิดเป็น
ร้อยละ 17.11 ไม่แน่ใจว่าเมื่อแจ้งขอใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินแล้ว รถพยาบาลจะมาถึงภายในระยะเวลา
อันรวดเร็ว ทั้งนี้ 812 คน คิดเป็นร้อยละ 96.44 ยังรับรู้อยู่ว่าบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ปลอดภัยกว่าการนำส่งเอง
โดย 105 คน คิดเป็นร้อยละ 11.67 ไม่แน่ใจว่าการบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ให้บริการทุกพื้นที่หรือไม่ แล้วยัง
พบว่า มี 204 คน ที่ไม่ทราบว่าเมื่อเรียกใช้ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน รถจากหน่วยงานใดจะไปรับ
แต่อย่างไรก็ตาม พบว่า 868 คน คิดเป็นร้อยละ 96.44 ยังรับรู้ว่าจะได้รับการดูแลเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย
ขณะนำส่งด้วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
ความคาดหวังต่อระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ พบว่ากลุ่มตัวอย่าง
มีความคาดหวังมากที่สุด ใน 3 ประเด็นหลัก ดังนี้ คาดหวังว่าบริการการแพทย์ฉุกเฉินจะให้บริการทุกพื้นที่
736 คน คิดเป็นร้อยละ 81.78 รองลงไป คือ คาดหวังว่าบริการการแพทย์ฉุกเฉินต้องมีอุปกรณ์ครบถ้วน
พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง 691 คน คิดเป็นร้อยละ 76.78 และถัดไป คือ คาดหวังว่าบุคลากรการแพทย์ฉุกเฉิน
เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ซับซ้อนรุนแรงได้ 687 คน คิดเป็นร้อยละ 76.33 รวมทั้ง
ประเด็นที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก คือ คาดหวังว่าบริการการแพทย์ฉุกเฉิน สามารถให้การช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ
และนำส่งโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย 657 คน คิดเป็นร้อยละ 73.00
ข้อเสนอการพัฒนาบริการการแพทย์ฉุกเฉินตามการรับรู้และความคาดหวัง ของประชาชน โดยการ
มีส่วนร่วมของ บ้าน วัด ส่วนราชการ (บวร) อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ มีดังนี้
1. การส่งเสริมสนับสนุนให้ตัวแทนครัวเรือนมีความรู้ ความเข้าใจ บทบาทหน้าที่ และสามารถดูแล
ผู้ป่วยฉุกเฉินในบ้านตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนรถฉุกเฉินจะมาถึง
2. การสร้างช่องทางการประสานงานสำหรับผู้นำชุมชนเพื่อการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน
การสร้างจิตสำนึกในการเป็นผู้นำที่ดี ช่วยแจ้งเหตุ จัดให้มีการอบรมคนในชุมชนตนเอง
3. พระภิกษุสงฆ์ควรเป็นผู้มีบทบาทให้ความรู้ความเข้าใจ เรื่องการรับมือกับความเจ็บป่วยฉุกเฉิน
อย่างมีสติ และการรับมือกับความสูญเสียอย่างสงบใจ การสงเคราะห์ด้านปัจจัยสนับสนุนงาน การประสานกับ
ผู้นำชุมชน และควรจัดอบรมพระภิกษุเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุฉุกเฉินอย่างถูกต้อง